ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ , ฝากร้านฟรีโพสฟรี , เว็บลงประกาศฟรี.
หมวดหมู่ทั่วไป => เว็บลงโฆษณาฟรี => ข้อความที่เริ่มโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 20 มิถุนายน 2025, 18:06:06 น.
-
ฉนวนกันความร้อน สำหรับงานอุตสาหกรรม สามารถควบคุมอุณหภูมิได้สูง (https://www.newtechinsulation.com/)
ฉนวนกันความร้อนสำหรับงานอุตสาหกรรมที่ต้องควบคุมอุณหภูมิสูงนั้น มีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่แตกต่างจากฉนวนทั่วไปที่ใช้ในบ้านเรือนหรืออาคารสำนักงาน เพราะต้องเผชิญกับสภาวะที่ท้าทายกว่ามาก
คุณสมบัติสำคัญของฉนวนกันความร้อนสำหรับงานอุตสาหกรรมที่ทนอุณหภูมิสูง คือ:
ความสามารถในการทนอุณหภูมิสูงมาก (High Temperature Resistance):
นี่คือคุณสมบัติหลักที่บ่งบอกว่าฉนวนนั้นเหมาะกับงานประเภทใด ฉนวนแต่ละชนิดจะมีช่วงอุณหภูมิใช้งานสูงสุดที่แตกต่างกัน
ตัวอย่างช่วงอุณหภูมิที่ฉนวนอุตสาหกรรมสามารถควบคุมได้:
ฉนวนใยแก้ว (Fiberglass / Glass Wool) สำหรับงานอุณหภูมิสูง: ทนอุณหภูมิได้ถึงประมาณ 540°C
ฉนวนใยหิน (Mineral Wool / Rock Wool): ทนอุณหภูมิได้สูงกว่าใยแก้ว โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 350°C - 850°C (ขึ้นอยู่กับเกรดและความหนาแน่น) บางเกรดพิเศษอาจทนได้ถึง 1,000°C
ฉนวนแคลเซียมซิลิเกต (Calcium Silicate): ทนอุณหภูมิได้สูงถึงประมาณ 650°C - 1,000°C มีความแข็งแรงเชิงกลสูง
ฉนวนเซรามิกไฟเบอร์ (Ceramic Fiber): เป็นฉนวนที่ทนอุณหภูมิได้สูงที่สุดในกลุ่มที่ใช้งานทั่วไปในอุตสาหกรรม สามารถทนอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 1,000°C ไปจนถึง 1,400°C หรือสูงกว่า เหมาะสำหรับเตาเผา เตาหลอม
ค่าการนำความร้อนต่ำมาก (Very Low Thermal Conductivity - Low k-value):
วัตถุประสงค์หลักของฉนวนคือการสกัดกั้นการถ่ายเทความร้อน ดังนั้นค่า k-value ต้องต่ำที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าความร้อนจากอุปกรณ์/ท่อจะไม่รั่วไหลออกมามากเกินไป ทำให้ประหยัดพลังงานและรักษาอุณหภูมิเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
ไม่ติดไฟและไม่ลามไฟ (Non-Combustible & Fire-Resistant):
เป็นคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่สำคัญที่สุดในโรงงานที่มีอุณหภูมิสูง ฉนวนต้องเป็นวัสดุที่ไม่ใช่เชื้อเพลิง และไม่ก่อให้เกิดการลามไฟเมื่อสัมผัสกับความร้อนจัดหรือเปลวไฟโดยตรง
มักจะผ่านการทดสอบตามมาตรฐานสากล เช่น BS 476 Part 4, Part 6 & 7 หรือ Euroclass A1/A2
ปล่อยควันและสารพิษต่ำ (Low Smoke & Toxicity Emission):
ในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้ ฉนวนที่ดีจะไม่ปล่อยควันหนาแน่นหรือก๊าซพิษที่เป็นอันตรายออกมามาก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการอพยพหนีไฟและการทำงานของทีมกู้ภัย
ความแข็งแรงเชิงกลและความทนทาน (Mechanical Strength & Durability):
ทนทานต่อการสั่นสะเทือน: เครื่องจักรในโรงงานมักมีการสั่นสะเทือน ฉนวนต้องสามารถคงรูปและประสิทธิภาพได้ดีภายใต้แรงสั่นสะเทือน
ทนทานต่อแรงกด/การบีบอัด: ในบางพื้นที่อาจมีการเหยียบย่ำ หรือมีการกดทับ ฉนวนต้องไม่ยุบตัวเสียรูปได้ง่าย
ทนทานต่อการสึกหรอ/เสียดสี: หากมีการสัมผัสบ่อยครั้ง หรือมีการเคลื่อนที่เล็กน้อย ฉนวนควรทนทานต่อการสึกหรอ
คงรูปภายใต้อุณหภูมิสูง: วัสดุต้องไม่บิดงอ, ยุบตัว, หรือเสื่อมสภาพเมื่อใช้งานที่อุณหภูมิสูงเป็นเวลานาน
ทนทานต่อสารเคมีและการกัดกร่อน (Chemical Resistance & Corrosion Control):
ในโรงงานอาจมีไอสารเคมี หรือมีความชื้นสูง ฉนวนควรทนทานต่อการกัดกร่อนจากสารเคมีเหล่านั้น
ควบคุมการกัดกร่อนใต้ฉนวน (CUI - Corrosion Under Insulation): สำหรับฉนวนที่หุ้มโลหะ (โดยเฉพาะสแตนเลส) ควรมีค่าคลอไรด์ไอออนต่ำมาก (Low Chloride Content) เพื่อป้องกันการเกิดการกัดกร่อนใต้ฉนวน ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยและสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงในอุตสาหกรรม
ไม่ดูดซับความชื้น (Low Moisture Absorption):
แม้จะเป็นงานอุณหภูมิสูง แต่หากมีการหยุดเดินเครื่อง หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว อาจเกิดการควบแน่นของไอน้ำภายในฉนวนได้ ฉนวนที่ดีควรมีการดูดซับความชื้นต่ำ หรือมีการออกแบบให้สามารถระบายความชื้นออกไปได้ เพื่อรักษาประสิทธิภาพและป้องกัน CUI
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (Environmental & Health Friendly):
ต้องปราศจากแร่ใยหิน (Asbestos-Free) และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจหรือผิวหนังของผู้ติดตั้งและผู้ปฏิบัติงานเมื่อใช้งาน (หรือต้องมีการปิดผิวอย่างมิดชิด)
การเลือกฉนวนสำหรับงานอุตสาหกรรมที่ต้องควบคุมอุณหภูมิสูงนั้น จำเป็นต้องพิจารณาอย่างละเอียดจากข้อมูลทางเทคนิคของฉนวนแต่ละชนิด และต้องอิงตามข้อกำหนดของกระบวนการผลิต, สภาพแวดล้อม, และมาตรฐานความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด การปรึกษาวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านฉนวนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด