แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 14
1
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: ครรภ์ไข่ปลาอุก (Molar pregnancy/Hydatidiform mole)

ครรภ์ไข่ปลาอุก เป็นภาวะผิดปกติของการตั้งครรภ์ ซึ่งตัวอ่อนของทารกและรกในครรภ์มารดามีการเจริญที่ผิดปกติ และเนื้อเยื่อรกกลายเป็นเนื้องอก ส่วนมากจะเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้าย (benign tumor) ที่ไม่มีอันตรายร้ายแรง ส่วนน้อย (ประมาณร้อยละ 2) ที่อาจกลายเป็นเนื้อร้ายหรือมะเร็งเยื่อรก (choriocarcinoma) ที่อาจลุกลามและแพร่กระจายตามกระแสเลือดไปทั่วร่างกาย

อาการมักเกิดในระยะแรก ๆ (ประมาณ 10-16 สัปดาห์) ของการตั้งครรภ์ บางครั้งอาจเกิดจากรกที่ค้างอยู่ในมดลูกหลังคลอดหรือแท้งบุตร

โรคนี้อาจพบได้ประปรายประมาณ 1 ราย ใน 1,000 รายของการตั้งครรภ์

อาจพบร่วมกับอาการแพ้ท้องรุนแรงหรือครรภ์เป็นพิษ


สาเหตุ

เกิดจากความผิดปกติของไข่ที่ถูกผสม ทำให้ไข่ที่ถูกผสมไม่มีการเจริญเติบโตเป็นตัวอ่อนของทารกและรกที่สมบูรณ์ และเนื้อเยื่อรกกลายเป็นเนื้องอก

ตามปกติ ไข่ที่ถูกผสมจะมีโครโมโซม 23 คู่ ซึ่งมาจากไข่ของผู้หญิงและอสุจิของผู้ชายอย่างละ 23 แท่งเท่ากัน แต่ในครรภ์ไข่ปลาอุก ไข่ที่ถูกผสมจะมีโครโมโซมผิดไปจากปกติ  อาจมีจำนวนโครโมโซม 46 แท่ง ซึ่งมาจากอสุจิของชายทั้งหมด (โดยอสุจิ 1-2 ตัวผสมกับไข่ของหญิงที่ไม่มีโครโมโซม ทำให้ไม่เกิดตัวอ่อนของทารก มีแต่เนื้อเยื่อรกที่ผิดปกติล้วน ๆ เรียกว่า "ครรภ์ไข่ปลาอุกชนิดสมบูรณ์" หรือ "complete molar pregnancy" คือ เป็นครรภ์ไข่ปลาอุกล้วน) หรือ 69 แท่ง (เป็นโครโมโซมจากหญิง 23 แท่ง กับจากชาย 46  แท่ง จากการที่ไข่ผสมกับอสุจิ 2 ตัว ทำให้เกิดตัวอ่อนของทารกที่ผิดปกติ ซึ่งไม่สามารถอยู่รอดได้ และเนื้อเยื่อรกที่ผิดปกติ เรียกว่า "ครรภ์ไข่ปลาอุกชนิดไม่สมบูรณ์" หรือ "Incomplete molar pregnancy" คือ เป็นครรภ์ไข่ปลาอุกร่วมกับมีทารก)

มักพบในหญิงอายุมากกว่า 35 ปี หรืออายุน้อยกว่า 20 ปี

หญิงที่เคยตั้งครรภ์ไข่ปลาอุกหรือเคยแท้งบุตรมาก่อน มีความเสี่ยงต่อการเกิดครรภ์ไข่ปลาอุกมากกว่าปกติ

อาการ

อาการมักเกิดหลังตั้งครรภ์ใหม่ ๆ พบว่าขนาดของมดลูกโตเร็วกว่าปกติ คลำได้ขนาดของมดลูกโตกว่าอายุครรภ์ที่ควรจะเป็น

นอกจากนี้ยังพบอาการเลือดออกกะปริดกะปรอยทางช่องคลอดคล้ายกับแท้งบุตร

มักจะพบว่าทารกในท้องไม่ดิ้น และมีอาการแพ้ท้อง คือคลื่นไส้อาเจียนอย่างรุนแรง

บางครั้งอาจมีชิ้นเนื้อลักษณะคล้ายไข่ปลาอุกหลุดออกมาทางช่องคลอด ด้วยเหตุนี้จึงเรียกโรคนี้ว่า ครรภ์ไข่ปลาอุก

บางรายอาจมีเลือดออกนานเป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือนจนทำให้มีอาการซีด อ่อนเพลีย

ผู้ป่วยอาจมีอาการแสดงของภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน (เช่น เหนื่อยง่าย ใจสั่น ชีพจรเต้นเร็ว ร่วมด้วย เนื่องจากฮอร์โมนเอชซีจี (ที่รกสร้าง) มีปริมาณสูงจะมีฤทธิ์อ่อน ๆ ในการกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์ทำงานมากกว่าปกติ) หรือครรภ์เป็นพิษ (ปวดศีรษะ ตามัว เท้าบวม ตรวจพบความดันโลหิตสูง และสารไข่ขาวในปัสสาวะ)


ภาวะแทรกซ้อน

ผู้ป่วยอาจมีภาวะครรภ์เป็นพิษ (ซึ่งจะพบก่อนอายุครรภ์ 5 เดือน) และภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินร่วมด้วย

ราวร้อยละ 5 ของผู้ป่วยไข่ปลาอุกชนิดไม่สมบูรณ์ และร้อยละ 15-20 ของผู้ป่วยไข่ปลาอุกชนิดสมบูรณ์ อาจมีอาการของโรคไข่ปลาอุกกำเริบต่อไปหลังการรักษาด้วยการขูดมดลูก (นำเนื้อเยื่อครรภ์ไข่ปลาอุกออกไป) เนื่องจากมีเนื้อเยื่อรกที่เป็นเนื้องอกผิดปกติติดค้างในมดลูกและเจริญต่อไปได้ (เรียกว่า "Persistent gestational trophoblastic neoplasia (GTN)") ซึ่งอาจลุกลามเข้าไปในผนังมดลูก ทำให้มีเลือดออกจากช่องคลอด

บางรายอาจกลายเป็นมะเร็งเยื่อรก (ซึ่งพบในครรภ์ไข่ปลาอุกชนิดสมบูรณ์มากกว่าชนิดไม่สมบูรณ์) ซึ่งสามารถแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ๆ

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้แต่น้อยมาก คือ การติดเชื้อเนื่องจากมีเนื้อเยื่อรกที่ตายค้างอยู่ในมดลูก ซึ่งอาจกลายเป็นโลหิตเป็นพิษ


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและการตรวจร่างกาย อาจพบความดันโลหิตสูง ซีด ชีพจรเต้นเร็ว มือสั่น

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจฮอร์โมนเอชซีจี ในเลือดและปัสสาวะซึ่งจะพบว่ามีขนาดสูงกว่าที่พบในการตั้งครรภ์ปกติ

แพทย์จะทำการตรวจพิเศษ เช่น การตรวจอัลตราซาวนด์ การตรวจชิ้นเนื้อ


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะทำการขูดมดลูก และให้ผู้ป่วยกินยาเม็ดคุมกำเนิดนาน 6 เดือนภายหลังการขูดมดลูก หรือทำการผ่าตัดมดลูกตามแต่สภาพของผู้ป่วย ถ้าอายุมากหรือมีบุตรเพียงพอ อาจทำการผ่าตัดเอามดลูกออก

หลังจากนั้น แพทย์จะนัดมาตรวจระดับเอชซีจีในปัสสาวะ และเอกซเรย์ปอดเป็นระยะ เป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี เพื่อสังเกตว่าจะมีการกำเริบหรือกลายเป็นมะเร็งหรือไม่

ถ้าพบว่าระดับเอชซีจีไม่ลด หรือกลับเพิ่มขึ้น (ซึ่งแสดงว่าเป็น persistent gestational trophoblastic neoplasia) แพทย์จะให้การรักษาด้วยการผ่าตัดมดลูก หรือเคมีบำบัด เช่น เมโทเทรกเซต (methotrexate), แดกติโนไมซิน (dactinomycin ), ไซโคลฟอสฟาไมด์ (cyclophosphamide), วินคริสทีน (vincristine) เป็นต้น หลังจากโรคทุเลา ผู้ป่วยที่ไม่ได้ตัดมดลูก ควรกินยาเม็ดคุมกำเนิดนาน 12 เดือน

ในรายที่กลายเป็นมะเร็งเยื่อรก (choriocarcinoma) แพทย์จะให้การรักษาด้วยเคมีบำบัดด้วยยาหลายชนิดร่วมกัน บางรายแพทย์อาจรักษาด้วยการผ่าตัด หรือรังสีบำบัดร่วมด้วย

ผลการรักษา สามารถรักษาให้หายขาดเป็นส่วนใหญ่ แม้แต่มะเร็งเยื่อรก ถ้ายังไม่แพร่กระจายไปที่อื่นก็รักษาให้หายขาดได้แทบทุกราย

การดูแลตนเอง

หากสงสัยหลังตั้งครรภ์พบว่ามีเลือดออกทางช่องคลอด มดลูกโตเร็วกว่าปกติ ทารกในท้องไม่ดิ้น มีอาการแพ้คลื่นไส้อาเจียนอย่างรุนแรง มีชิ้นเนื้อลักษณะคล้ายไข่ปลาอุกหลุดออกมาทางช่องคลอด หรือมีอาการของต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน (เหนื่อยง่าย ใจสั่น) หรือครรภ์เป็นพิษ (ปวดศีรษะ ตามัว เท้าบวม) ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นครรภ์ไข่ปลาอุก ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการปวดท้อง มีเลือดออกทางช่องคลอด ซีด มีอาการเหนื่อยง่าย ใจสั่น ปวดศีรษะ ตามัว หรือเท้าบวม 
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล

สำหรับผู้ที่เคยเป็นครรภ์ไข่ปลาอุก ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ ควรปรึกษาแพทย์ในการวางแผนที่จะมีการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย แพทย์มักจะแนะนำให้คุมกำเนิดนาน 6-12 เดือนก่อนที่จะตั้งครรภ์ใหม่ และเมื่อตั้งครรภ์ควรฝากครรภ์แต่เนิ่น ๆ แพทย์จะทำการตรวจอัลตราซาวนด์ให้เร็วขึ้นรวมทั้งการตรวจพิเศษอื่น ๆ เพื่อการวินิจฉัยความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นและให้การดูแลรักษาตั้งแต่แรกเริ่ม

ข้อแนะนำ

1. โรคนี้ถึงแม้จะพบได้ไม่บ่อยนัก แต่ถ้ามีอาการที่น่าสงสัย เช่น มดลูกโตเร็ว เลือดออกทางช่องคลอดกะปริดกะปรอย หรือแพ้ท้องรุนแรง ควรส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลให้แน่ใจ และถ้าเป็นโรคนี้จริง ควรแนะนำให้ผู้ป่วยรักษากับแพทย์ตามนัดอย่างต่อเนื่อง ก็มีทางรักษาให้หายขาดได้ (ถึงแม้จะกลายเป็นมะเร็งเยื่อรกก็ตาม) แต่ถ้ากลายเป็นมะเร็งเยื่อรกแล้วไม่ได้รักษาจริง ๆ จัง ๆ ก็อาจแพร่กระจายไปทั่วตัว เป็นอันตรายถึงเสียชีวิตได้

2. หลังจากรักษาจนหายขาด ผู้ป่วยที่มีอายุไม่มากและยังไม่ได้ผ่าตัดมดลูก สามารถมีบุตรได้ใหม่ และโอกาสจะเป็นโรคนี้ซ้ำอีกมีน้อยมาก (ประมาณร้อยละ 1)

2
รถยนต์ไฟฟ้า 2025 CHERY และ OMODA & JAECOO เปิดตัวสุดยอดเทคโนโลยี Super Hybrid System พร้อมเดินสายผลิตรถใหม่ พร้อมจับมือ KGEN เพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ไทยปีนี้

OMODA & JAECOO (โอโมด้า แอนด์ เจคู่) และ CHERY (เชอรี) ภายใต้บริษัท CHERY Automobile ผู้นำนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลก ประกาศวิสัยทัศน์ทรงพลังในการนำประเทศไทยตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลก ด้วยการเปิดตัวเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ ที่มาพร้อมสมรรถนะ     ความปลอดภัย และประสิทธิภาพพลังงานระดับสูงสุด เพื่อก้าวสู่ยุคใหม่แห่งพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นหัวหอกสำคัญในการทำตลาดปีนี้ พร้อมประกาศความเคลื่อนไหวเชิงรุกของ CHERY และ OMODA & JAECOO ในไทย และเตรียมเปิดสายการผลิตในโรงงานไทยไตรมาส 3 พร้อมประกาศเปิดตัวรถใหม่ปีนี้ นอกจากนี้ CHERY Automobile ยังจับมือบริษัท คิง เจน จำกัด (มหาชน) หรือ KGEN ภายใต้นโยบายการสนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.), สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และนโยบายการสนับสนุนการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศจากกระทรวงพาณิชย์ เพื่อร่วมกันพัฒนาแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า (EV) สัญชาติไทย ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิต EV ในภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนประเทศเข้าสู่ยุคใหม่แห่งพลังงานสะอาด และนวัตกรรมยานยนต์อย่างยั่งยืน โดยมีท่านศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมเป็นเกียรติในงาน

เฉิน ชุนชิง รองประธาน เชอรี่ อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า "ประเทศไทยเป็นตลาดยุทธศาสตร์สำคัญของ CHERY และ OMODA & JAECOO ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การประกาศความพร้อมและแผนการลงทุนในครั้งนี้ สะท้อนความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่เรามีต่อตลาดไทย และเป็นก้าวสำคัญในวิสัยทัศน์ระยะยาวเพื่อสร้างฐานการผลิตที่แข็งแกร่งในภูมิภาค เรามีความพร้อมเต็มที่ในทุกมิติ ทั้งด้านผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำหน้า การพัฒนาด้านการขายและการบริการหลังการขายโดยร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ตลอดจนการพัฒนาฐานการผลิตในไทยที่ทันสมัยระดับโลก เรามั่นใจอย่างยิ่งว่ากลยุทธ์ธุรกิจของ CHERY และ OMODA & JAECOO จะตอบความต้องการของผู้บริโภคไทยและเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน"

ก้าวสู่อนาคตยานยนต์เทคโนโลยีไฮบริด CHS/SHS ล้ำสมัย
CHERY และ OMODA & JAECOO ได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลก ด้วยการเปิดตัวเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ ที่มาพร้อมสมรรถนะ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพพลังงานระดับสูงสุด เพื่อก้าวสู่ยุคใหม่แห่งพลังงานสะอาด ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีไฮบริด CHS (CHERY Hybrid System) / SHS (Super Hybrid System) ล้ำสมัย ที่โดดเด่นใน 4 ด้านหลัก

ประสิทธิภาพพลังงานสูงสุด: เครื่องยนต์ไฮบริดเฉพาะทาง 1.5T GDI ให้ประสิทธิภาพทางความร้อนสูงถึง 44.5% สูงที่สุดในอุตสาหกรรม
พลังขับเคลื่อนระดับโลก: ระบบส่งกำลัง DHT 230/280 สามารถให้กำลังสูงสุดถึง 280 กิโลวัตต์ และรอบเครื่องสูงสุดถึง 24,000 รอบ/นาที
ความปลอดภัยเหนือมาตรฐาน: ระบบตัดพลังงานฉุกเฉินภายใน 2 มิลลิวินาที และการปกป้องในทุกสภาพอากาศ รวมถึงการลุยน้ำลึกถึง 700 มม.
ความสามารถรอบด้าน (All Scenario): ระบบบริหารพลังงานล่วงหน้า (Predictive Energy Management) ลดการใช้พลังงานลง 15% และสามารถกู้คืนพลังงานจากเบรกได้ถึง 80%
OMODA & JAECOO เตรียมเปิดตัวรถอีกหลากหลายรุ่นภายใต้เทคโนโลยี SHS, BEV, HEV และ REEV ภายในปีนี้ และเตรียมพบกับ Mr.J เร็วๆ นี้

OMODA & JAECOO เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นที่มาพร้อมเทคโนโลยี SHS (Super Hybrid System), เครื่องยนต์ BEV (Battery Electric Vehicle), HEV (Hybrid Electric Vehicle) และ REEV (Range-Extended Electric Vehicle) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยมีกำหนดการเปิดตัว JAECOO 5 EV และ JAECOO 6T EV ภายในไตรมาส 3 ตามมาด้วย OMODA C7 SHS และ OMODA C9 SHS ในไตรมาส 4 ของปีนี้ และเพื่อสร้างการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น OMODA & JAECOO เตรียมเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ JAECOO หรือ Mr.J ภายในเร็วๆ นี้
 
นอกจากนี้ยังได้มีการปรับราคา OMODA C5 EV Long Range รุ่นใหม่ โดยยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะและฟังก์ชันเดิมอย่างครบถ้วน ได้แก่ OMODA C5 EV Long Range Dynamic ราคา 649,000 บาท และราคา OMODA C5 EV Long Range Max ราคา 699,000 บาท และยังมีโปรโมชันดาวน์เริ่มต้น 8,888 บาท ผ่อนนานสูงสุด 84 เดือน*

ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี*
บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง 5 ปี*
โฮมชาร์ทเจอร์พร้อมติดตั้ง*
การรับประกันครอบคลุมระยะเวลา 8 ปี หรือ ระยะทาง 200,000 กิโลเมตร*

ส่วน JAECOO 7 SHS ที่พิสูจน์ความสามารถด้วยสถิติการขับขี่ระยะทางไกลถึง 1,433 กิโลเมตร ด้วยน้ำมันเพียงหนึ่งถังและการชาร์จแบตเตอรี่เพียงหนึ่งครั้ง ซึ่งถือเป็นระยะทางขับขี่ที่ไกลที่สุดในประเทศไทย และติดอันดับ 5 ของโลกจากการแข่งขันระดับนานาชาติ JAECOO 7 SHS Global Super Hybrid Marathon ... แคมเปญ ECO Bonus มอบส่วนลดพิเศษ 10,000 บาท สำหรับลูกค้าที่เป็นเจ้าของรถยนต์ประเภทเครื่องยนต์สันดาป (ICE) หรือ ไฮบริด (HEV) พร้อมฟรี ค่าบำรุงรักษารถ (ค่าแรง และ ค่าอะไหล่) เป็นระยะเวลา 2 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) 2 ปี ฟรี Home Charger และ สายชาร์จ V-2-L สำหรับผู้จองและรับรถภายใน 30 มิถุนายน 2568 เท่านั้น*


รถแบรนด์ CHERY เดินหน้าบุกตลาดไทยเต็มกำลัง
CHERY ประกาศความคืบหน้าการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นตลาดสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีแผนการลงทุนและการพัฒนาธุรกิจระยะยาว พร้อมกลยุทธ์การวางตำแหน่งแบรนด์และผลิตภัณฑ์ในตลาดรถยนต์ไทยที่เน้นย้ำจุดเด่นด้านเทคโนโลยี คุณภาพ และความคุ้มค่า ในปีนี้ CHERY เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่น CHERY Tiggo 8, CHERY V23 (iCAR V23), CHERY Tiggo Cross และ CHERY Tiggo 7 ทาง CHERY ยังเดินหน้าขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศไทย ให้ครบ 30 แห่ง ในประเทศไทย เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างครอบคลุม มุ่งมั่นสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดและมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือระดับให้กับผู้บริโภคชาวไทยภายในปีนี้
 
เริ่มเดินสายการผลิตที่โรงงาน จ.ระยอง ไตรมาส 3 ปี 2568  ประเดิมด้วยรุ่น JAECOO 6 EV
CHERY และ OMODA & JAECOO ประกาศความคืบหน้าการก่อสร้างโรงงานในประเทศไทย ที่อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง บนพื้นที่ 104 ไร่ โดยมีมูลค่าการลงทุนที่วางแผนไว้ทั้งสิ้นราว 5,000 ล้านบาท พร้อมเริ่มเดินสายการผลิตที่โรงงานใน ไตรมาส 3 ปี 2568 ด้วยเป้าหมายกำลังการผลิตเป็น 80,000 คันต่อปีภายในปี 2571 โดยเริ่มการผลิต JAECOO 6 EV เป็นรุ่นแรกเพื่อเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกในเอเชีย โรงงานแห่งนี้จะเน้นการผลิตแบบ Completely Knocked Down (CKD) พร้อมติดตั้งหุ่นยนต์เชื่อมสำหรับการเชื่อมอลูมิเนียมที่แม่นยำ นอกจากนี้ ในอนาคตยังมีแผนการลงทุนในการผลิตยานยนต์เพิ่มเติม ทั้งขยายกำลังการผลิตและโมเดลไฟฟ้าไฮบริด (HEV) รถยนต์รุ่นอื่นๆ ของ CHERY Group และการจัดตั้งโรงพ่นสีภายในปี 2570 รวมถึงการให้ความสำคัญในการจัดจ้างงานสำหรับการทำงานในโรงงานนี้โดยเริ่มต้นจะเป็นแรงงานไทย 150 คน สำหรับการทำงานกะเดียว และจะขยายโรงงานและอัตราการจ้างแรงงานไทยเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย

ฉี เจี๋ย ประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) กล่าวว่า “การเดินสายการผลิตที่โรงงานระยองนับเป็นก้าวสำคัญของเรา ไม่เพียงแสดงถึงความมุ่งมั่นในการลงทุนระยะยาวในประเทศไทย แต่ยังเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นของเราในศักยภาพของไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค การเริ่มต้นด้วย JAECOO 6 EV คือการนำเสนอนวัตกรรมระดับโลกสู่ตลาดไทย และเราตั้งใจผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยของเรากับความเชี่ยวชาญของบุคลากรไทย เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั้งในประเทศและภูมิภาค นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางอันยาวไกล และเรามุ่งมั่นที่จะเติบโตไปพร้อมกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทยอย่างยั่งยืน"

เร็วๆ นี้ CHERY Automobile ยังจับมือบริษัท คิง เจน จำกัด (มหาชน) หรือ KGEN ภายใต้นโยบายการสนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.), สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และนโยบายการสนับสนุนการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศจากกระทรวงพาณิชย์ ในการพัฒนาแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทย เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิต EV ในภูมิภาคอาเซียน โดยความร่วมมือครั้งนี้มุ่งเน้นพัฒนาแบรนด์ EV แห่งชาติของไทย ส่งเสริมขีดความสามารถด้านเทคโนโลยี EV ภายในประเทศ และสนับสนุนผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศให้เข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานระดับโลก โดยมุ่งเน้นการจำหน่ายในประเทศไทย โดยชูจุดเด่นด้านเทคโนโลยี EV และราคาที่เข้าถึงได้สำหรับผู้บริโภคไทย เพื่อสนับสนุนให้คนไทยสามารถเปลี่ยนมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ โครงการยังใช้ข้อได้เปรียบด้านภาษีในฐานะ “รถยนต์สัญชาติไทย” เพื่อสร้างระบบราคาที่เหมาะสม พร้อมกระตุ้นห่วงโซ่การผลิตภายในประเทศ ตั้งแต่การจัดหาชิ้นส่วน การจ้างงาน ไปจนถึงการพัฒนาเครือข่ายบริการหลังการขายให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นในทุกภูมิภาค


งาน Next Era Mobility: TECH DAY by CHERY and OMODA & JAECOO จัดขึ้นที่ Movenpick BDMS Wellness Resort กรุงเทพฯ นับเป็นก้าวสำคัญของทั้ง CHERY และ OMODA & JAECOO ในการแสดงศักยภาพและความพร้อมของเทคโนโลยียานยนต์พลังงานใหม่ในประเทศไทย พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดยานยนต์แห่งอนาคต

*เงื่อนไขแต่ละข้อเสนอพิเศษมีเนื้อหาและช่วงเวลาที่มีความแตกต่าง แต่ทั้งนี้เงื่อนไขทั้งหมดเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด และ
บางข้อเสนอพิเศษนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการโปรโมชันอื่นๆ ได้

3
อาหารกับโรคไต กินอย่างไรให้ไตแข็งแรง และกินแบบไหนที่ ไตไม่ปลื้ม!

สำหรับคนที่ป่วยเป็นโรคไต การเลือกกินอาหารเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งอาหารที่ผู้ป่วยโรคไตกินได้ ไม่ได้ ก็มีหลายคนอยากรู้คำตอบ เช่น อาหารบำรุงไต ต้องกินอะไรบ้าง แล้วอาหารโรคไตห้ามกินอะไร อย่างโรคไตระยะ 3 กินอะไรได้บ้าง ซึ่งจะมีรายละเอียดยิบย่อยของการกินอาหารแต่ละอย่าง เพราะหากกินผิดประเภท กินไม่ถูกหลัก ก็อาจส่งผลต่อโรคไตที่ป่วยอยู่ และนอกจากอาหารที่กินได้ กินไม่ได้แล้ว ยังมีเรื่องของการกินผัก และผลไม้เข้ามาด้วย อย่ารอช้า วันนี้มีวิธีในการเลือกกินอาหาร ของคนป่วยโรคไตมาแนะนำ ตามมากันเลยย

1. อาหารกับคนป่วยโรคไตสำคัญอย่างไร

2. อาหารกับโรคไต ควรกินอะไรดี?

3. โพแทสเซียมต่ำ ควรกินอะไร โพแทสเซียมสูง ห้ามกินอะไร

4. โรคไตห้ามกินผักอะไรบ้าง และกินผักอะไรแล้วดี

5. โรคไตห้ามกินผลไม้อะไรบ้าง แล้วกินผลไม้อะไรแล้วดี


อาหารกับคนป่วยโรคไต

1. อาหารกับคนป่วยโรคไตสำคัญอย่างไร

การควบคุมอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไตเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะไตของผู้ป่วยโรคไตจะทำงานได้ไม่เต็มที่ หรืออาจจะเสื่อมสภาพไปแล้ว การควบคุมอาหารจะช่วยลดภาระการทำงานของไต ช่วยชะลอความเสื่อมของไต และยังช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย

เหตุผลที่ผู้ป่วยโรคไตต้องควบคุมอาหาร

ลดภาระการทำงานของไต เมื่อไตทำงานได้ไม่เต็มที่ การกินอาหารที่มีโปรตีน โซเดียม และฟอสฟอรัสสูงเกินไป จะทำให้ไตต้องทำงานหนัก ในการกำจัดของเสียเหล่านี้ออกจากร่างกาย

    ควบคุมปริมาณของเสียในเลือด การกินอาหารที่เหมาะสมจะช่วยควบคุมปริมาณของเสีย เช่น ยูเรีย ครีเอตินิน และโพแทสเซียมในเลือด ไม่ให้สูงเกินไป
    ป้องกันภาวะแทรกซ้อน การควบคุมอาหารช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และภาวะกระดูกพรุน
    ป้องกันการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ
    ยืดระยะเวลาการฟอกไตออกไป
    ป้องกันการขาดสารอาหาร
    รักษาภาวะโภชนาการของผู้ที่เป็นโรคไตเรื้อรังให้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด
    ชะลอความเสื่อมของไต การควบคุมอาหารอย่างเหมาะสม จะช่วยชะลอความเสื่อมของไต และยืดอายุการทำงานของไตออกไป


2. อาหารกับโรคไต ควรกินอะไรดี?

การเลือกอาหารสำหรับคนที่ป่วยโรคไตนั้นสำคัญมาก เพราะไตที่ทำงานไม่สมบูรณ์ จะไม่สามารถกำจัดของเสียและของเหลวส่วนเกินออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการควบคุมอาหารจึงเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาที่สำคัญ ซึ่งหลักการสำคัญในการเลือกอาหารของคนที่ป่วยโรคไตมีดังนี้


    จำกัดโปรตีน เนื่องจากไตต้องทำงานหนักในการย่อยสลายโปรตีน การจำกัดปริมาณโปรตีนจะช่วยลดภาระของไต แต่ก็ต้องกินโปรตีนในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จึงควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อหาปริมาณโปรตีนที่เหมาะสม
    จำกัดโซเดียม โซเดียมจะทำให้น้ำในร่างกายคั่ง และเพิ่มความดันโลหิต ซึ่งเป็นอันตรายต่อคนที่ป่วยโรคไต ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มทุกชนิด
    จำกัดโพแทสเซียม โพแทสเซียมสูงอาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ดังนั้นควรจำกัดการบริโภคอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย กล้วยหอม มะเขือเทศ
    จำกัดฟอสฟอรัส ฟอสฟอรัสสูงอาจทำให้กระดูกอ่อนแอ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีฟอสฟอรัสสูง เช่น เครื่องในสัตว์ ไข่แดง ถั่ว
    ควบคุมปริมาณของเหลว การดื่มน้ำมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายมีน้ำเกิน ซึ่งเป็นอันตรายต่อคนที่ป่วยโรคไต ควรดื่มน้ำตามที่แพทย์แนะนำ


อาหารที่ผู้ป่วยโรคไตควรรับประทาน

    เนื้อสัตว์ เลือกเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เช่น เนื้อปลา ไก่ส่วนอก ไข่ขาว
    ผัก เลือกผักที่มีโพแทสเซียมต่ำ เช่น ฟักเขียว บวบ แตงกวา มะเขือยาว
    ผลไม้ เลือกผลไม้ที่มีโพแทสเซียมต่ำ เช่น แอปเปิล ส้ม แตงโม
    ธัญพืช เลือกธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต


อาหารที่ผู้ป่วยโรคไตควรหลีกเลี่ยง

    อาหารแปรรูป อาหารกระป๋อง อาหารสำเร็จรูป มักมีโซเดียมสูง
    อาหารรสเค็ม ปลาเค็ม กุนเชียง ไข่เค็ม
    อาหารหมักดอง ผักดอง ผลไม้ดอง
    เครื่องในสัตว์ ไต ตับ หัวใจ
    ถั่ว ถั่วเหลือง ถั่วดำ ถั่วแดง
    นมและผลิตภัณฑ์จากนม เนยแข็ง ชีส
    ไข่แดง
    อาหารทอด
    อาหารหวาน


3. โพแทสเซียมต่ำ ควรกินอะไร โพแทสเซียมสูง ห้ามกินอะไร

สำหรับคนที่ป่วยโรคไตหลายคน มักกังวลเรื่องระดับโพแทสเซียมในร่างกาย เพราะระดับโพแทสเซียมที่สูงเกินไปหรือต่ำเกินไป อาจส่งผลต่อการทำงานของหัวใจและกล้ามเนื้อได้ การควบคุมปริมาณโพแทสเซียมจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก

โพแทสเซียมต่ำ ควรกินอะไร?

    อาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เน้นอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย (โดยเฉพาะกล้วยหอม), อโวคาโด, มะม่วงสุก,มะขาม, แคนตาลูป, ผักโขม, ผักบุ้ง, มันฝรั่ง
    ผลไม้แห้ง ลูกเกด, ลูกพรุน
    เกลือเสริมโพแทสเซียม แต่ต้องกินตามคำแนะนำของแพทย์


โพแทสเซียมสูง ห้ามกินอะไร?

    อาหารที่มีโพแทสเซียมสูง หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย, อโวคาโด, มะม่วงสุก, มะขาม, แคนตาลูป,ผักโขม, ผักบุ้ง, มันฝรั่ง
    ผลไม้แห้ง: ลูกเกด, ลูกพรุน
    เกลือเสริมโพแทสเซียม: ห้ามรับประทาน

. โพแทสเซียมต่ำ ควรกินอะไร โพแทสเซียมสูง ห้ามกินอะไร

4. โรคไตห้ามกินผักอะไรบ้าง และกินผักอะไรแล้วดี

อาหารที่สำคัญหลัก ๆ และละเลยไม่ได้คือ “ผัก” เพราะผักก็เป็นส่วนประกอบหลักของอาหารที่เรากินแทบทุก ๆ มื้อ ดังนั้น การเลือกผักที่เหมาะสม จึงเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพไต

ผักที่โรคไตควรกิน

    ผักที่มีโพแทสเซียมต่ำ เช่น ผักกาดขาว ผักกาดหอม กะหล่ำปลี แตงกวา ฟักทอง
    ผักที่ผ่านการต้ม การต้มผักจะช่วยลดปริมาณโพแทสเซียมลงได้
    ผักที่ผ่านการลวก การลวกผักสั้น ๆ จะช่วยรักษาสารอาหารและลดปริมาณโพแทสเซียมได้


ผักที่โรคไตควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัดปริมาณ

    ผักที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น ผักโขม ผักบุ้ง ผักกาดเขียวเข้ม แครอท มันฝรั่ง
    ผักที่มีฟอสฟอรัสสูง เช่น บรอกโคลี ถั่วฝักยาว
    ผักที่มีกรดออกซาลิกสูง เช่น ผักโขม หัวไชเท้า


เหตุผลที่ต้องหลีกเลี่ยงผักบางชนิด

    โพแทสเซียม หากร่างกายมีโพแทสเซียมสูงเกินไป อาจส่งผลต่อการทำงานของหัวใจและกล้ามเนื้อ
    ฟอสฟอรัส  ฟอสฟอรัสสูงอาจทำให้เกิดภาวะกระดูกพรุนได้
    กรดออกซาลิก กรดออกซาลิกอาจจับตัวกับแคลเซียม ทำให้เกิดนิ่วในไต


5. โรคไตห้ามกินผลไม้อะไรบ้าง แล้วกินผลไม้อะไรแล้วดี

สำหรับคนที่ป่วยโรคไต การเลือกกินผลไม้เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง เนื่องจากผลไม้หลายชนิดมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งหากคนที่ป่วยโรคไตกินเข้าไปในปริมาณมาก อาจส่งผลต่อการทำงานของหัวใจและกล้ามเนื้อได้


ผลไม้ที่ผู้ป่วยโรคไตควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัดปริมาณ

    ผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง กล้วยทุกชนิด, ทุเรียน, ขนุน, น้อยหน่า, ฝรั่ง, มะม่วงสุก, มะละกอสุก, มะปราง, มะเฟือง, แอปริคอท, พีช, ลูกพรุน, กีวี, อินทผาลัม
    ผลไม้แห้ง ลูกเกด, ลูกพรุน


ผลไม้ที่ผู้ป่วยโรคไตสามารถกินได้

    ผลไม้ที่มีโพแทสเซียมต่ำ แอปเปิล, ส้ม, ชมพู่, สับปะรด, มังคุด, เงาะ
    ผลไม้ที่ผ่านการปรุง เช่น แอปเปิลอบ, สับปะรดกระป๋อง (ชนิดที่ไม่ใส่น้ำเชื่อม)


เคล็ดลับในการเลือกผลไม้สำหรับคนที่ป่วยโรคไต

    ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ เพื่อวางแผนการกินอาหารที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย
    อ่านฉลากอาหาร ตรวจสอบปริมาณโพแทสเซียมในผลไม้กระป๋องหรือผลไม้แปรรูป
    เลือกกินผลไม้สด ผลไม้สดจะมีโพแทสเซียมต่ำกว่าผลไม้แห้งหรือผลไม้กระป๋อง
    กินผลไม้ให้หลากหลาย เพื่อให้ได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น


เมนูอาหารสำหรับโรคไต อร่อย สุขภาพดี และปลอดภัย

การวางแผนอาหารสำหรับคนที่ป่วยโรคไตอาจดูยุ่งยาก แต่เมื่อเข้าใจหลักการและมีเมนูที่หลากหลาย ก็สามารถกินอาหารได้อย่างอร่อย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แอดจึงมีเมนูอาหารสำหรับคนที่ป่วยโรคไตมาแนะนำ เผื่อไปเป็นไอเดียสำหรับหลาย ๆ คน


อาหารเช้า

    โจ๊กข้าวกล้อง ไข่ขาวต้ม
    ขนมปังโฮลวีท ทาเนยถั่ว
    ซีเรียลไร้กลูเตน พร้อมนมพร่องมันเนย


อาหารกลางวัน

    ข้าวกล้อง ผัดผักรวมมิตร (ใช้ผักที่มีโพแทสเซียมต่ำ เช่น ผักกาดขาว ฟักทอง) กับปลาทูย่าง
    ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กน้ำใส ใส่เนื้อไก่ไม่ติดหนัง
    สลัดผัก (ใช้ผักใบเขียวที่มีโพแทสเซียมต่ำ) โปรตีนจากไก่ย่างหรือปลา


อาหารเย็น

    ข้าวกล้อง แกงจืดเต้าหู้หมูสับ
    ส้มตำปลาร้า (ปรุงรสแบบไม่เค็ม)
    ยำวุ้นเส้น (ใช้เส้นวุ้นเส้น หรือเส้นก๋วยเตี๋ยวชนิดอื่นๆ ที่ไม่ทำจากข้าวสาลี)
    ของว่าง
    ผลไม้สด (แอปเปิล ส้ม ชมพู่)
    เยลลี่
    วุ้น


การเลือกอาหารสำหรับคนที่ป่วยโรคไต ควรปรึกษาแพทย์หรือ นักโภชนาการ เพื่อวางแผนในการเลือกกินอาหารที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล และการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ อย่างสมดุล จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง เสริมด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะช่วยให้ไตทำงานได้ดีขึ้น

4
จัดฟันบางนา: คราบหินปูน ในช่องปาก ต้นเหตุของโรคเหงือกและฟัน

คุณเคยสงสัยไหม ?
หินปูนที่เกาะติดอยู่ที่ฟันของเรามันเกิดมาจากอะไร ?
มันอยู่บนฟันของเรา แล้วเราก็ต้องเสียเงินไปเอามันออกทุกๆ  6 – 7 เดือน   แล้วทำไมต้องเอาหินปูนออก ?

ขูดหินปูน
คราบหินปูน ในช่องปาก คืออะไร ?
หินปูน หรือ หินน้ำลาย   พัฒนามาจากคราบแบคทีเรีย พลาค  ( Plaque )   หรือที่เราเรียกกันว่า ขี้ฟัน ครับ  มันมีลักษณะเป็นฟิลม์ใสๆ บางๆ แล้วเกาะติดอยู่บริเวณขอบเหงือ  มีสี ออกเหลือง หรือเทา
แล้วหินปูนเกิดขึ้นมายังไง  ?
เกิดจากเวลาที่เรากินอาหาร ยิ่งเป็นอาหารประเภท  คาร์โบไฮเดรด ที่มีแป้ง น้ำตาล  แล้วเราแปรงฟันไม่สะอาดพอ  แบคทีเรียในช่องปาก อยู่ได้ เพราะใช้น้ำตาล เป็นแหล่งพลังงาน สร้างกรดและสารพิษ    เมื่อแบคทีเรียถูกสะสม แคลเซียมและอาหารอื่นๆ มาทับถมซ้อนกันก็ทำให้เกิดคราบแข็งเกาะติดจนเป็น หินปูน  ในที่สุด
สรุปคือ เกิดจากการตกตะกอนของแคลเซียม และฟอสเฟรด เป็นแร่ธาตุที่มีอยู่ในน้ำลาย
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราไม่ขูดหินปูนออก   ?
สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับคุณ เวลาแปรงฟันคุณสังเกตุว่ามี เลือดออก เหงือกบวมแดง มีกลิ่นปาก  เสียบุคลิกภาพ ส่งผลแรงแรงอย่างที่คุณไม่คาดคิด คือเป็น โรคปริทันต์อักเสบ  ฟันเริ่มโยก นำไปสู่การ สูญเสียฟัน น่ากลัวมาก

*** คำแนะนำ
สิ่งที่เราจะทำได้ เพื่อป้องกันการเกิดหินปูน คือ
–  แปรงฟันให้ถูกวิธีอย่างสม่ำเสมอ 2 – 3 ครั้ง
–  ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์
–  ใช้ไหมขัดฟัน Floss เพราะแปรงสีฟันเพียงอย่างเดียว อาจเข้าไปทำความสะอาดไม่ถึงคราบซอกฟันของเรา
–  ไปพบหมอ ทุกๆ 6 เดือน เพื่อเอาหินปูนออกและ ตรวจสุขภาพช่องปาก ครับ

5
เว็บลงโฆษณาฟรี / รถไฟฟ้า ev เกีย KIA EV5 Light ปี 2024
« เมื่อ: วันที่ 17 พฤษภาคม 2025, 13:05:58 น. »
รถไฟฟ้า ev เกีย KIA EV5 Light ปี 2024
1,299,000 บาท

เกีย KIA EV5 Light ปี 2024
Kia EV5 Light มาพร้อมตัวเลือกระบบส่งกําลังไฟฟ้าหลากรูปแบบ โดยในรุ่นนี้ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 64.2 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้าขนาด 160 กิโลวัตต์ ให้ระยะทางจากพลังงานไฟฟ้าตามมาตรฐาน NEDC สูงสุดถึง 490 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง สามารถสร้างอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ภายในเวลา 8.5 วินาที ด้วยกําลังมอเตอร์สูงสุด 217 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 310 นิวตันเมตร มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว อีกทั้งยังมีฟีเจอร์มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยมากมาย

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์                KIA
   รุ่น                     เกีย KIA EV5 Light ปี 2024
   ประเภทรถ            รถอเนกประสงค์ SUV, Electric - EV
   ปีที่เปิดตัว             2024
   ราคา                  1,299,000 บาท

ดีไซน์
   ภายนอก
สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรค
ระบบควบคุมระยะการจอด (เซ็นเซอร์ เฉพาะด้านหน้า และหลัง)
ไฟหน้า LED (แบบ Multi Reflection 3 จุด,ไฟหรี่หน้าแบบ LED)
ไฟท้าย LED
อุปกรณ์ภายนอกอื่นๆ (มือจับประตูแบบ Flush type ทํางานแบบ Manual,วัสดุตกแต่งซุ้มล้อ และกาบข้างสีดําด้าน)
ยางอะไหล่สำรอง (จะได้เป็นชุดอุปกรณ์ฉุกเฉิน)
ขนาดยางหน้า-หลัง (225/60ฑ118)
ไฟ Daytime Running Lights
ล้ออัลลอย (18 นิ้ว)
หลังคาพาโนรามิคซันรูฟ (บริเวณด้านหน้า และหลัง)

   ภายใน
พวงมาลัยหุ้มหนัง (สังเคราะห์ แบบ 4 ก้าน ปรับระดับ 4 ทิศทาง)
อุปกรณ์ภายในอื่นๆ (แผงปิดสัมภาระอเนกประสงค์แบบปรับตั้งได้)
ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ (ด้วยสวิตช์)

สเปค
   มอเตอร์ไฟฟ้า                    มอเตอร์ไฟฟา Permanent Magnet Synchronous Motor กำลัง 217 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 8.5 วินาที

   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)        แรงม้า
   ระบบเกียร์                          เกียร์อัตโนมัติ
   รูปแบบเกียร์                       สวิตช์เกียร์แบบ Column-type Shift by Wire พร้อม Paddle Shift ปรับการทํางานของ Regenerative Brake
   ระบบเบรค ABS                   มี
   ชนิดแบตเตอรี่                    ไฟฟ้า
   ความจุแบตเตอรี่                  64.2 kWh
   ระยะทางวิ่ง/การชาร์จ 1 ครั้ง       490 กม. มาตรฐาน NEDC รองรับการชาร์จแบบกระแสสลับ (AC) สูงสุด 7 kW Single-phase รองรับการชาร์จแบบกระแสตรง (DC) สูงสุด 102 kW ระยะเวลาในการชาร์จจาก 10% ถึง 100% ผ่าน AC 9 ชม. 43 นาที ระยะเวลาในการชาร์จจาก 10% ถึง 80% ผ่าน DC Fast charge EVSE 36 นาที

   น้ำหนักตัวรถ                       1,870 กก.
   ประเภทยางรถยนต์                 -
   ขนาดล้อ (นิ้ว)                    ล้ออัลลอย (18 นิ้ว)
   ระบบขับเคลื่อน                    ขับเคลื่อนล้อหน้า

ระบบความปลอดภัยระบบความปลอดภัย

อุปกรณ์ความปลอดภัย

ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESC และควบคุมการทรงตัวขณะลากจูง TSA)
ดิสก์เบรก 4 ล้อ (พร้อมครีบระบายความร้อน)
กุญแจรีโมท (Smart Key)
ระบบกระจายแรงเบรก EBD (พร้อมระบบ Multi-Collision Brake)
อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยอื่นๆ (ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร, ระบบป้องกันการชนด้านหน้าพร้อมตรวจจับรถยนต์ คน และจักรยาน พร้อม Junction Assist)
เข็มขัดนิรภัย (คูู่หน้าแบบ 3 จุด ELR ปรับระดับสูง -ต่ำ เข็มขัดนิรภัยแถวที่ 2 แบบ 3 จุด ELR และ ระบบแจ้งเตือนมีผู้โดยสารอยู ่ด้านหลัง)
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (HAC และควบคมเบรกขณะลงทางลาดชัน DBC)
กล้อง (มองภาพด้านหลังขณะถอยจอด)
เบรกมือไฟฟ้า (พร้อม Auto Brake Hold)
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ((ISOFIX) บนเบาะแถวที่ 2)

6
ทาวน์โฮม พลีโน่ พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา 3 (Pleno Rama 9-Krungthep Kreetha 3)
เริ่มต้น 3.39 ลบ.

พลีโน่ พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา 3 (Pleno Rama 9-Krungthep Kreetha 3)
ทาวน์โฮมโครงการใหม่จาก เอพี ไทยแลนด์ มาพร้อมด้วย Happiness Area ที่ Connect ทุกๆ Destination เชื่อมต่อทุกความสุขของชีวิต และ ครอบคลุมทุกการเดินทาง และ More simple life พื้นที่ที่ไม่ได้จำกัดแค่ในบ้าน แต่รองรับทุกการใช้ชีวิต เชื่อมต่อคนทุกวัยได้อย่างลงตัว

รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ            พลีโน่ พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา 3 (Pleno Rama 9-Krungthep Kreetha 3)
 เจ้าของโครงการ       เอพี (ไทยแลนด์)
 แบรนด์ย่อย            พลีโน่
 ราคา                    เริ่มต้น 3.39 ลบ.

 ประเภทบ้าน           ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม (Townhouse Townhome)
 ลักษณะทำเล          บ้านใกล้เมือง
 พื้นที่โครงการ        15 ไร่ 2 งาน 38 ตร.ว.
 จำนวนบ้าน            160 หลัง
 แบบบ้านทั้งหมด      1 แบบ
  เนื้อที่บ้าน           โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 พื้นที่ใช้สอย          ตั้งแต่ 126 ตร.ม.
 จำนวนชั้น             2 ชั้น
 หน้ากว้าง            โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนห้องนอน     3 ห้อง
 จำนวนที่จอดรถ      2 คัน
 สาธารณูปโภค     สวนสาธารณะ, คลับเฮาส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, รปภ., CCTV

สถานที่ใกล้เคียง
 โซน           รามคำแหง, บางกะปิ, เสรีไท
 ที่ตั้ง            ซอยกาญจนาภิเษก 025 แยก 1 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร 10250

 ขนส่งสาธารณะ
ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าAirport Rail Link, สถานี(สถานีปัจจุบัน)(บ้านทับช้าง)
ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าAirport Rail Link, สถานี(สถานีปัจจุบัน)(ลาดกระบัง)
ใกล้ทางด่วน (ทางพิเศษฉลองรัช, ทางพิเศษศรีรัช)
ใกล้ถนนสายหลัก (ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า, ถนนรามคำแหง, ถนนศรีนครินทร์, ถนนพระราม 9, ถนนกาญจนาภิเษก)
ขนส่งอื่นๆ สนามบินสุวรรณภูมิ

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
ไลฟ์สไตล์
ลิตเติ้ลวอล์ค กรุงเทพกรีฑา 6.6 กม.

สถานศึกษา
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า 4.5 กม.
โรงเรียนนานาชาติฮีทฟิลด์ 5.6 กม.
โรงเรียนสารสาสน์วิเทศร่มเกล้า 5.7 กม.
มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) วิทยาเขตสุวรรณภูมิ 8.5 กม.

โรงพยาบาล
โรงพยาบาลรามคำแหง 9.9 กม.

7
การเริ่มต้นขายของกินทำเป็นอาชีพเสริมได้ คำแนะนำในการสร้างรายได้เสริมพิเศษเพื่อสนับสนุนการเงินของตนเอง

ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ผู้คนจำนวนมากกำลังมองหาวิธีสร้างรายได้พิเศษเพื่อสนับสนุนการเงินของตนเอง ธุรกิจเสริมที่ได้รับความนิยมและเข้าถึงได้มากที่สุดอย่างหนึ่งก็คือการขายอาหาร ไม่ว่าจะเป็นของขบเคี้ยวทำเอง อาหารท้องถิ่นหรือสูตรอาหารที่ไม่เหมือนใคร การเริ่มต้นธุรกิจขายอาหารสามารถทำกำไรและเติมเต็มชีวิตได้

ข้อดีของการขายของกินเป็นอาชีพเสริม:
ความต้องการสูง: อาหารเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน ทำให้มีความต้องการของตลาดสูง
ความยืดหยุ่น: คุณสามารถเลือกเวลาและสถานที่ขายได้ตามความสะดวก เช่น ตลาดนัด, ออนไลน์, หรือหน้าร้าน
เริ่มต้นง่าย: อาหารบางประเภทใช้ทุนไม่มาก และสามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน
กำไรดี: หากเลือกเมนูที่ได้รับความนิยมและบริหารจัดการต้นทุนได้ดี ก็สามารถสร้างกำไรได้งาม

เมนูยอดนิยมสำหรับขายเป็นอาชีพเสริม:
ลูกชิ้นทอด
หมูปิ้ง / ไก่ย่าง
แซนด์วิช
ขนมไทยต่างๆ
เครื่องดื่ม ชา กาแฟ
อาหารตามสั่งแบบง่ายๆ เช่น ข้าวเหนียวไก่ทอด

นี่คือแนวทางในการเริ่มต้นธุรกิจเสริมนี้

1. ค้นหาช่องทางของคุณ
ขั้นตอนแรกในการเริ่มธุรกิจขายอาหารคือการค้นหาช่องทางของคุณ ลองนึกถึงประเภทอาหารที่คุณชอบทำและสิ่งที่คุณเชื่อว่าคนอื่นจะชอบ คุณสามารถเน้นที่อาหารเฉพาะ ของว่างเพื่อสุขภาพ ของหวาน หรือแม้แต่ตอบสนองความต้องการด้านอาหาร เช่น อาหารมังสวิรัติหรืออาหารปลอดกลูเตน การระบุช่องทางของคุณจะช่วยให้คุณโดดเด่นในตลาดที่มีการแข่งขัน

2. สร้างแผนธุรกิจ
แม้ว่าจะเป็นธุรกิจเสริม แต่การมีแผนที่ชัดเจนก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ ลองพิจารณาสิ่งต่อไปนี้:
ตลาดเป้าหมาย:ลูกค้าของคุณคือใคร พวกเขาเป็นคนทำงาน นักเรียน หรือครอบครัวที่กำลังมองหาความสะดวกสบาย?
ต้นทุนการเริ่มต้น:คุณต้องใช้เงินทุนเท่าใดในการเริ่มต้น ซึ่งรวมถึงส่วนผสม บรรจุภัณฑ์ และใบอนุญาตที่จำเป็น
กลยุทธ์ด้านราคา:คุณจะคิดราคาอาหารเท่าไร? ศึกษาคู่แข่งในพื้นที่ของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถเสนอราคาที่สามารถแข่งขันได้

3. เลือกแพลตฟอร์มการขายที่เหมาะสม
มีหลากหลายวิธีในการขายอาหาร ไม่ว่าจะเป็นทางออนไลน์หรือออฟไลน์ คุณสามารถเริ่มต้นโดยการขายในตลาดท้องถิ่น งานแสดงอาหาร หรือขายตรงให้กับเพื่อนและครอบครัว แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram และแม้แต่แอปจัดส่งอาหาร เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการจัดแสดงอาหารของคุณและดึงดูดลูกค้า การสร้างตัวตนทางออนไลน์จะช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้นและสร้างฐานลูกค้าที่ภักดี

4. เน้นคุณภาพและการนำเสนอ
กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในธุรกิจอาหารคือการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอาหารของคุณสด มีรสชาติดี และทำอย่างพิถีพิถัน ใส่ใจในการนำเสนอด้วยเช่นกัน เนื่องจากบรรจุภัณฑ์ที่น่าดึงดูดใจสามารถทำให้อาหารของคุณน่าดึงดูดใจลูกค้าได้มากขึ้น พิจารณาใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อดึงดูดผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

5. การทำการตลาดธุรกิจอาหารของคุณ
การบอกต่อแบบปากต่อปากอาจทรงพลัง แต่การทำการตลาดธุรกิจเสริมของคุณถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเติบโต ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อโพสต์ภาพอาหารของคุณ แบ่งปันความคิดเห็นของลูกค้า และโปรโมตข้อเสนอพิเศษ คุณยังสามารถเสนอตัวอย่างฟรีหรือส่วนลดเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ ลองร่วมมือกับผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นหรือบล็อกเกอร์เพื่อขยายการเข้าถึงของคุณ

6. ข้อพิจารณาทางกฎหมาย
ก่อนเริ่มต้นธุรกิจอาหารของคุณ ให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจกฎระเบียบในท้องถิ่นและได้รับใบอนุญาตหรือใบอนุญาตที่จำเป็น ซึ่งอาจรวมถึงการตรวจสอบด้านสุขภาพและความปลอดภัย การจดทะเบียนธุรกิจ หรือการรับรองการจัดการอาหาร การปฏิบัติตามกฎระเบียบเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมาย

7. ค่อยๆ ขยายขนาดขึ้น
การเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ และการทดลองตลาดถือเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อคุณสร้างฐานลูกค้าและปรับปรุงสูตรอาหารของคุณแล้ว คุณสามารถค่อยๆ ขยายธุรกิจของคุณได้ ซึ่งอาจต้องจ้างคนช่วยเพิ่มเติม ขยายข้อเสนอผลิตภัณฑ์ของคุณ หรือเพิ่มความพยายามทางการตลาดของคุณ

การขายอาหารเป็นธุรกิจเสริมเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสร้างรายได้พิเศษในขณะที่ทำสิ่งที่คุณรัก ด้วยการวางแผนอย่างรอบคอบ ความทุ่มเท และการเน้นที่คุณภาพ คุณสามารถเปลี่ยนความหลงใหลในการทำอาหารของคุณให้กลายเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ โปรดจำไว้ว่าธุรกิจอาหารที่ประสบความสำเร็จทุกธุรกิจเริ่มต้นจากแนวคิดง่ายๆ ดังนั้นเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้และดูว่ามันจะพาคุณไปได้ไกลแค่ไหน


8
ฉนวนกันความร้อน ตัวช่วยป้องกันการควบแน่นในระบบปรับอากาศ

ขึ้นชื่อว่า “ฉนวนกันความร้อน” เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงโฟกัสประโยชน์หลัก ๆ ไปที่การป้องกันความร้อนกันอย่างเดียว เพื่อช่วยลดความร้อนสะสมภายในอาคาร สำนักงาน โรงงาน ฯลฯ จนทำให้ประหยัดพลังงานได้มากขึ้น

แต่ทั้งนี้ ในความเป็นจริงแล้ว ฉนวนกันความร้อน มีประโยชน์มากกว่านั้นอีก หนึ่งในนั้นก็คือ การช่วยป้องกันการควบแน่นในระบบปรับอากาศ ซึ่งถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างมากในทุกสถานที่ที่ต้องเปิดแอร์ทำความเย็น


การควบแน่นในระบบปรับอากาศคืออะไร ทำไมจึงต้องติดฉนวนกันความร้อนเพื่อแก้ไข

การควบแน่น หมายถึง การเปลี่ยนแปลงสถานะของสสารจากก๊าซกลายเป็นของเหลว ดังนั้น การควบแน่นในระบบปรับอากาศ จึงหมายถึงการที่อากาศภายในระบบปรับอากาศเปลี่ยนสถานะกลายเป็นหยดน้ำ อันเนื่องมาจากกความแตกต่างของอุณหภูมิในท่อลมปรับอากาศและบรรยากาศภายนอก

ซึ่งเป็นการปะทะกันระหว่างความร้อนกับความเย็นจนเกิดปฏิกิริยากลั่นตัวเป็นหยดน้ำขึ้น โดยเมื่อท่อระบบปรับอากาศมีหยดน้ำจากการควบแน่นเกาะสะสมเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ นั้น อาจทำให้เกิดผลเสียตามมาได้ ดังนี้

    ท่อระบบปรับอากาศเกิดความชื้น อาจเป็นสนิม ทำให้เสื่อมสภาพได้ง่าย และเร็วมากขึ้น จนนำไปสู่การสูญเสียค่าซ่อมบำรุงได้เร็วกว่าที่ควรจะเป็น
    เมื่อท่อระบบปรับอากาศเสียหาย ต้องเปลี่ยน ต้องซ่อมบำรุง อาจทำให้ต้องปิดระบบปรับอากาศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจได้ ทำให้เกิดความเสียหายทั้งในแง่ของการผลิต การขาย และความพึงพอใจของลูกค้า
    เมื่อท่อระบบปรับอากาศมีความชื้น อาจกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา เชื้อโรคต่าง ๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการทำให้เชื้อโรคเหล่านั้นหลุดลอยออกมากับอากาศ ทำให้ทั่วทั้งสถานที่ไม่ปลอดภัย เมื่อสูดลมหายใจเข้าไปแล้ว อาจรับเอาเชื้อโรคเข้าไปจนทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งคนที่เสี่ยงเจ็บป่วยได้ก็เป็นทั้งพนักงานและลูกค้าด้วย


ฉนวนกันความร้อน ฉนวนคุณภาพที่ควบคุมการควบแน่นได้ดี

ฉนวนกันความร้อน สำหรับงานระบบปรับอากาศ เพื่อบุในท่อปรับอากาศนั้น เป็นฉนวนกันความร้อนคุณภาพที่ผลิตขึ้นมาจากฉนวนใยแก้ว ปิดผิวด้วยแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์ ยางนีโอพรีนสีดำ และแผ่นกลาสทิชชู เหมาะสำหรับใช้บุภายในท่อระบบปรับอากาศ ซึ่งไม่ได้แค่ช่วยป้องกันการสะสมความร้อนได้ดีเท่านั้น แต่ยังช่วยดูดซับเสียงดังที่มาตามท่อลมได้ด้วย อีกทั้งยังมีความหนาที่สามารถช่วยป้องกันการควบแน่นเป็นหยดน้ำได้ดี ทำให้ท่อปรับอากาศมีอายุการใช้งานยาวนาน และไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

นอกจากนั้นแล้ว ฉนวนกันความร้อนสำหรับงานปรับอากาศก็ยังได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรม และผ่านมาตรฐาน ASTM E84 และ BS476 ซึ่งมีคุณสมบัติไม่ลุกติดลามไฟ จึงไม่เป็นชนวนก่อเหตุให้เกิดอัคคีภัย รวมถึงสามารถช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเกิดเพลิงไหม้ให้น้อยลงได้ด้วย จึงถือเป็นฉนวนกันความร้อนที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสถานที่ที่ต้องใช้ระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ อาทิ สำนักงาน ศูนย์การค้า โรงงาน เป็นต้น

สำหรับผู้ประกอบการท่านใดก็ตาม ที่กำลังมองหาฉนวนกันความร้อนสำหรับงานระบบปรับอากาศโดยเฉพาะ หรือต้องการฉนวนกันความร้อนสำหรับจุดสำคัญอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ผนัง ห้องเครื่องจักร หรือว่าหลังคา

9
จัดฟันบางนา: ควรทำอย่างไร เมื่อรากฟันเทียมหลุด ?

การฝังรากฟันเทียม เป็นการรักษาปัญหาฟันที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ทดแทนการใส่ฟันปลอมที่นิยมในสมัยก่อน ซึ่งการฝังรากฟันเทียมเป็นทดแทนฟันที่มีประสิทธิภาพมากและมีการใช้งานที่เหมือนฟันธรรมชาติมากที่สุด อย่างไรก็ตาม เมื่อทำการฝังรากฟันเทียมแล้ว อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นหลังจากที่ฝังรากฟันเทียมแล้ว ขณะที่กลับไปพักฟื้นอาจจะทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมา

แต่หากผู้เข้ารับการรักษาทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์ ก็อาจจะทำให้มีอาการที่ดีขึ้น แต่หากไม่ทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์ ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาหรือภาวะแทรกซ้อนได้ เพราะฉะนั้นการทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์จะเป็นการป้องกันปัญหาที่จะตามมาภายหลังได้

อย่างเช่นการรับประทานอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง หลังจากทำการฝังรากฟันเทียม หรือผู้ป่วยที่สูบบุหรี่ และสูบบุหรี่ขณะการพักฟื้น ก็อาจจะทำให้แผลหายช้ากว่าเดิม และเกิดการอักเสบติดเชื้อได้ เพราะการสูบบุหรี่ส่งผลโดยตรงต่อช่องปาก อาจจะทำให้รากฟันเทียมที่ทำการติดตั้งภายในช่องปากเกิดหลุดออกมาได้

การหลุดของรากฟันเทียมเกิดขึ้นได้จากที่ผู้เข้ารับการรักษารับประทานอาการที่แข็งและเหนียว ในขณะที่รากฟันยังไม่เข้าที่และยังไม่ประสานตัวกันอย่างสนิท หรืออาจจะมีการอักเสบติดเชื้อ ทำให้รากฟันหลุดได้ และปัญหาดังกล่าวนี้ ทำให้ทันตแพทย์ทำการแก้ไขได้ยาก จึงมีความจำเป็นที่จะต้องการการฝังรากฟันเทียมใหม่ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาการแก้ไขที่ยุ่งยาก ซับซ้อน ดังนั้นการป้องกันและระมัดระวังในเรื่องของการรับประทานอาหารที่จะทำให้เกิดปัญหาที่จะทำให้รากฟันเทียมหลุดจึงมีความจำเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ผู้เข้ารับการรักษาควรทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์ ระมัดระวังเรื่องของการรับประทานอาหาร ควรงดรับประทานอาหารที่แข็งและเหนียว ขณะที่รากฟันเทียมยังประสานตัวกันยังไม่สนิท รวมไปถึงผู้เข้ารับการรักษาที่มีประวัติการสูบบุหรี่ ก็ควรงดสูบตามคำแนะนำของทันตแพทย์

เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และอักเสบของแผลและเหงือก และการดื่มแอลกอฮอล์ ก็ควรหลักเลี่ยงหลังจากที่ทำการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม เพราะแอลกอฮอล์จะส่งผลแผลหายช้า และอาจจะทำให้เกิดการอักเสบของเหงือกและแผลตามมาได้ และอาจจะส่งให้รากฟันเทียมหลุดได้ หากอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้ามาปรึกษาทันตแพทย์ที่คลีนิคได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

10
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


11
ปล่อยรถไมล์น้อย BMW X4M Competition ฟรีประกัยภัยชั้น 1

บีเอ็มดับเบิลยู BMW X4 M Competition ปี 2022
BMW X4 M Competition รถยนต์ Sports Activity Coupe (SAC) ที่เติมพลังให้เหนือกว่า X4 M รุ่นเดิมด้วยชุดแต่ง Competition เสริมให้เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ M TwinPower Turbo ขนาด 2,993 ซีซี มอบความแรงได้ถึง 375 กิโลวัตต์ / 510 แรงม้า ขณะที่การเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ทำได้ในเวลาเพียง 4.0 วินาทีเท่านั้น

หมายเหตุ : รายละเอียดของรถยนตอ์าจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง

รถผู้บริหาร รถทดลองขับ ไมล์น้อย ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

โปรโมชั่นพิเศษ
ตั้งแต่ 25 มี.ค. - 31 มี.ค. 2568
BSI 5 ปี / 100,000 KM
ฟรีประกัยภัยชั้น 1 ระยะเวลา 3 ปี

ราคาพิเศษ 6,559,000 บาท

สนใจสอบถามรายละเอียดกดลิ้ง https://www.checkraka.com/flashdeal/car

ข้อมูลทั่วไป

เครื่องยนต์                     M TwinPower Turbo แบบ 6 สูบเรียง
ขนาดเครื่องยนต์ (CC)       2,993 CC
กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)    510 แรงม้า
ระบบเกียร์                      เกียร์ออโต้ 8AT
รูปแบบเกียร์                    พร้อมระบบ Drivelogic
ระบบเบรค ABS             มี (พร้อมระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC) และระบบช่วยเพิ่มแรงเบรกอัตโนมัติ)
ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง     เบนซิน 95
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)     N/A
ระบบจ่ายน้ำมัน              Direct injection
น้ำหนักตัวรถ                 -
ประเภทยางรถยนต์          -
ขนาดล้อ (นิ้ว)
ระบบขับเคลื่อน            ขับเคลื่อนสี่ล้อ (M xDrive)


12
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: รังแค (Dandruff/Seborrhea/Pityriasis capitis)

รังแค หมายถึง เกล็ดสีขาวบนหนังศีรษะ ซึ่งจะหลุดร่วงเมื่อแปรงหรือหวีผม เป็นสิ่งที่พบได้ในคนกว่าร้อยละ 50 โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเป็นมากในช่วงอายุประมาณ 20 ปี

การมีขี้รังแคมากไม่ถือว่าเป็นโรค และไม่ทำให้เกิดความผิดปกติของเส้นผมหรือการอักเสบของหนังศีรษะแต่อย่างใด

สาเหตุ

เกล็ดรังแคเกิดจากหนังศีรษะชั้นบนสุด (ชั้นขี้ไคล) ที่ตายแล้วและหลุดออกมาตามธรรมชาติ ผมบนศีรษะอาจจะรบกวนกระบวนการหลุดลอกของชั้นขี้ไคล ทำให้มีเกล็ดหรือขุยเกิดขึ้น เนื่องจากภาวะนี้พบมากในวัยรุ่น จึงเชื่อว่าอาจเกิดจากการกระตุ้นของฮอร์โมนแอนโดรเจนและการทำงานของต่อมไขมัน และอาจเกี่ยวข้องกับกรรมพันธุ์ นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ที่มีรังแคมากจะมีปริมาณของเชื้อรามาลัสซีเซียเฟอร์เฟอร์ (Malassezia furfur) มากกว่าคนปกติ ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจเป็นสาเหตุของการเกิดรังแคได้


อาการ

เป็นเกล็ดหรือขุยสีขาวหรือเทาเงิน ขนาดเล็ก ๆ อาจเป็นขุยละเอียด หรือเป็นแผ่น อาจเป็นเพียงแห่งเดียวหรือหลายแห่ง หรืออาจเป็นทั้งหนังศีรษะก็ได้ เกล็ดรังแคจะติดค่อนข้างแน่นบนหนังศีรษะ และจะหลุดร่วงก็ต่อเมื่อแปรงหรือหวีผม หรือเมื่อถูกลมพัด

ความรุนแรงของรังแคจะแปรผันไม่แน่นอนในแต่ละช่วง โดยที่ไม่ทราบสาเหตุ บางรายอาจมีอาการคันร่วมด้วย


ภาวะแทรกซ้อน

ไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง นอกจากทำให้รำคาญและเสียบุคลิกภาพ

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะแนะนำให้สระผมด้วยแชมพูที่มีตัวยารักษารังแค เช่น ซีลีเนียมซัลไฟด์ (selenium sulfide), ซิงค์ไพริไทโอน (zinc pyrithione), น้ำมันดิน (coal tar เช่น ทาร์แชมพู) ใช้สระผมสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ควรสระทิ้งไว้นาน 5-15 นาที แล้วค่อยล้างออก นอกจากนี้อาจใช้แชมพูคีโตโคนาโซล ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อรา สระผมก็ได้ผลเช่นกัน

ถ้าได้ผล ควรใช้แชมพูดังกล่าวไปเรื่อย ๆ หากหยุดใช้อาจกลับมีขี้รังแคได้อีก

ในรายที่ใช้แชมพูดังกล่าว 2 สัปดาห์แล้วยังไม่ได้ผล หรือหนังศีรษะมีลักษณะอักเสบ หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ที่สงสัยว่าอาจเป็นโรคผิวหนังชนิดอื่น ๆ จะทำการตรวจหาสาเหตุอื่น ๆ เพิ่มเติม


การดูแลตนเอง

หากมีรังแคมาก ให้สระผมด้วยแชมพูที่มีตัวยารักษารังแค เช่น ซีลีเนียมซัลไฟด์ (selenium sulfide), ซิงค์ไพริไทโอน (zinc pyrithione), น้ำมันดิน (coal tar เช่น ทาร์แชมพู) ใช้สระผมสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ควรสระทิ้งไว้นาน 5-15 นาที แล้วค่อยล้างออก

ควรปรึกษาแพทย์ ถ้าใช้แชมพูรักษารังแคแล้วไม่ได้ผล หรือสงสัยเป็นโรคผิวหนังอักเสบชนิดเกล็ดรังแค (เซ็บเดิร์ม) หรือโรคผิวหนังอื่น ๆ


การป้องกัน

หมั่นสระผมด้วยแชมพูที่มีตัวยารักษารังแคเป็นประจำ


ข้อแนะนำ

ผู้ที่มีอาการรังแคที่ศีรษะที่เป็นเรื้อรัง หรือเป็นมากกว่าปกติ อาจเป็นโรคผิวหนังอักเสบชนิดเกล็ดรังแค หรืออาการแรกเริ่มของโรคโซริอาซิสก็ได้ หากสงสัยควรปรึกษาแพทย์ เพื่อยืนยันการวินิจฉัยและให้การรักษาที่ถูกต้องต่อไป

13
บริหารจัดการอาคาร: วิธีใช้แอร์ที่มักถูกเข้าใจผิด ทำค่าไฟพุ่งกระฉูด

อากาศที่ร้อนอบอ้าวในช่วงหน้าร้อนของประเทศไทย เป็นรอะไรที่แบบทรมานมาก สำหรับใครหลายคนที่ไม่ได้ทำงานในห้องแอร์ หรือบ้านที่ไม่มแอร์คอยช่วยทำให้อากาศเย็น ยิ่งเปิดแอร์บ่อยเท่าไหร่ แอร์ยิ่งทำงานหนัก ทำให้หลายคนต้องเจอค่าไฟฟ้าที่พุ่งกระฉูด แต่จะให้ปิดแอร์ก็ไม่ไหว อยู่ไม่ได้อีก แต่ก็ยังมีวิธีที่จะทำให้ประหยัดค่าไฟได้เพิ่มขึ้น แม้ต้องเปิดแอร์ตลอดทั้งวันทั้งคืน ซึ่งเคล็ดลับดังกล่าวทางเราเคยแนะนำไปเมื่อครั้งที่แล้ว


นอกจากนี้ เราจะมีเคล็ดลับการประหยัดค่าไฟแล้ว หากเราลองทำตามขั้นตอนหรือวิธีที่เราแนะนำไปแล้วค่าไฟยังสูงอยู่ คุณอาจจะใช้งานแอร์ที่ผิดวิธี เชื่อว่า หลายคนยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้งานแอร์อยู่ ซึ่งนี่ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ค่าไฟพุ่งโดยที่เราไม่รู้ตัว ดังนั้น วันนี้ทางเราจะมาพูดถึงวิธีการใช้แอร์ที่มักจะถูกเข้าใจผิด ซึ่งทำให้อายุการใช้งานของแอร์ลดลง แถมทำให้แอร์ทำงานหนักมากยิ่งขึ้น และยังส่งผลให้ค่าไฟพุ่งกระฉุดอีกด้วย เพื่อเป็นแนวทางให้กับหลายคนที่อาจจะเข้าใจผิด ได้กลับมาใช้งานแอร์ได้อย่างถูกวิธี เพื่อประหยัดค่าไฟให้ถูกลง และยืดอายุการใช้งานของแอร์ของคุณอีกด้วย

อย่างแรกเลยก็คือ การใช้เครื่องเก่าไม่ยอมเปลี่ยน เชื่อหลายๆบ้าน ยังใช้แอร์เก่า ๆ ไม่ยอมเปลี่ยน เพราะเห็นว่ายังใช้ได้อยู่ ซึ่งจริง ๆ แล้วแม้ตัวเครื่องภายนอกจะยังดูดี แต่ระบบภายในก็เสื่อมไปตามระยะเวลาในการใช้งาน โดยเฉพาะแอร์เก่า ๆ ที่ใช้งานมานานเกิน 15 ปี ซึ่งนอกจากจะต้องเสียค่าซ่อมบำรุงแพงแล้ว ยิ่งใช้ยิ่งกินไฟอีกต่างหาก ดังนั้น แทนที่จะช่วยประหยัดอาจต้องจ่ายมากกว่าการซื้อเครื่องใหม่ ซึ่งเครื่องปรับอากาศในตอนนี้ก็มีทั้งการพัฒนาระบบที่ช่วยประหยัดไฟได้มากกว่าแถมยังมีฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้งานของเรามากขึ้นด้วย หากเรายังฝืนดันทุรังใช้งานแอร์เก่าๆ แน่นอนว่า ค่าใช้จ่ายบานปลายแน่ๆ ข้อต่อมาคือ หลายคนคิดว่า  ยิ่งค่า BTU สูงยิ่งดี ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดมากๆ

นอกจากนี้ บางคนอาจจะยังเข้าใจผิดคิดว่ายิ่งค่า BTU เยอะยิ่งทำให้บ้านเย็น ซึ่งจริง ๆ แล้วหากเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีค่า BTU สูงเกินความจำเป็นก็จะทำให้คอมเพรสเซอร์ตัดบ่อย แต่ถ้าเครื่องปรับอากาศมีค่า BTU ต่ำเกินไปก็จะทำเครื่องทำงานหนักและกินไฟมาก เพราะฉะนั้น ควรเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีค่า BTU เหมาะสมกับขนาดของห้อง โดยคำนวนจากสูตรพื้นที่ห้อง (กว้างxยาว) x ค่า Cooling Load Estimation = ค่า BTU ที่เหมาะสม ซึ่งการประเมินค่า Cooling Load Estimation ที่เหมาะสมกับแต่ละห้อง ตัวอย่างเช่น ห้องนอน 700-750 BTU/ตารางเมตร, ห้องนั่งเล่น 750-850 BTU/ตารางเมตร, ห้องรับประทานอาหาร 800-950 BTU/ตารางเมตร, ห้องครัว 900-1000 BTU/ตารางเมตร, ห้องทำงาน 800-900 BTU/ตารางเมตร และห้องประชุม 850-1000 BTU/ตารางเมตร โดยสูตรคำนวณนี้ ค่า BTU เหมาะสำหรับห้องที่มีเพดานไม่เกิน 3 เมตร หากเป็นห้องที่มีความสูงมากกว่าและมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น ตำแหน่งของห้อง ทิศทางของแดด เครื่องใช้ไฟฟ้า และจำนวนผู้อาศัย จะต้องบวกค่า BTU เพิ่มขึ้นด้วย ต่อมาในเรื่องของตำแหน่งการติดตั้งแอร์ก็มีความสำคัญ

เพราะหากติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม ก็ช่วยให้แอร์ไม่ต้องทำงานหนักและประหยัดค่าไฟได้อีกทางหนึ่ง โดยพื้นที่ที่ติดตั้งแอร์ควรเป็นพื้นที่โล่ง ไม่มีสิ่งของบังทางลม พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงบริเวณที่เป็นมุมอับ การติดตั้งแอร์บนผนังบ้านที่รับแสงแดดจัดหรือทิศตะวันตกเพราะจะทำให้เครื่องทำงานหนัก รวมถึงไม่ติดตั้งแอร์บริเวณใกล้กับประตูหรือหน้าต่าง เนื่องจากจะทำให้ความร้อนภายนอกไหลเข้ามาแทนที่อากาศภายในได้ง่าย นอกจากนี้ สิ่งที่หลายคนยังเข้าใจผิดก็คือ การเปิดแอร์พร้อมพัดลมทำให้เปลืองไฟ ซึ่งจริง ๆ แล้วเปิดแอร์ให้ประหยัดไฟควรเปิดพัดลมควบคู่กับการเปิดแอร์ไปด้วย จะทำให้ห้องเย็นขึ้นและช่วยประหยัดไฟได้ และอีกข้อหนึ่งก็คือ หลายคนเชื่อว่า เปิดแอร์อุณหภูมิต่ำจะช่วยให้ห้องเย็นเร็วขึ้น


หลายคนคงเคยปรับแอร์ให้มีอุณหภูมิต่ำเพราะอยากให้ห้องเย็นเร็วขึ้น ซึ่งจริง ๆ แล้วทำให้สิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ เพราะไม่ว่าตั้งให้อุณหภูมิต่ำสักแค่ไหน ก็ใช้เวลาในการทำความเย็นพอ ๆ กันกับการตั้งอุณหภูมิปกติอยู่ดี ทางที่ดีถ้าหากอยากให้ห้องเย็นเร็วขึ้น ให้เร่งความเร็วพัดลมแอร์จะช่วยได้ดีกว่านั่นเอง หากทราบแล้วว่า พฤติกรรมเหล่านี้ ไม่ได้ช่วยทำให้ประหยัดค่าไฟ ก็ควรรีบปรับปรุงการใช้แอร์ด่วน เพื่อที่จะได้ประหยัดค่าไฟและยืดอายุการใช้งานของแอร์ให้นานยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากคุณอยากที่จะตรวจสอบหรือเช็คระบบแอร์ สามารถขอรายละเอียดได้จากทางเรามีบริการดูแลระบบปรับอากาศและหมุนเวียนอากาศภายในอาคาร ระบบปรับอากาศและหมุนเวียนอากาศเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะนั่นหมายถึงอากาศที่ดีที่เราสูดดมเข้าไป ถ้าหากเรามีระบบเครื่องปรับอากาศที่ไม่สะอาดแล้ว อาจจะทำให้เราเสียสุขภาพไปด้วย เพราะฉะนั้น ให้ทางเราได้ดูแลในเรื่องของระบบปรับอากาศของคุณให้มีการใช้งานที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

14
เว็บลงโฆษณาฟรี / Doctor At Home: บรูเซลโลซิส (Brucellosis)
« เมื่อ: วันที่ 7 พฤษภาคม 2025, 12:44:51 น. »
Doctor At Home: บรูเซลโลซิส (Brucellosis)

บรูเซลโลซิส (brucellosis/undulant fever/Mediterranean fever)* เป็นโรคติดเชื้อร้ายแรงที่เกิดในสัตว์เลี้ยง (เช่น โค กระบือ แพะ แกะ อูฐ หมู) สุนัข สัตว์แทะ สัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม (วาฬ โลมา) สัตว์ป่า (กระบือป่า กระต่ายป่า สุนัขจิ้งจอก สุนัขป่า) ซึ่งสามารถติดต่อมาสู่คนได้

โรคนี้พบได้ประปราย ซึ่งมักพบในกลุ่มคนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง (เช่น คนงานในโรงเลี้ยงสัตว์หรือโรงฆ่าสัตว์ สัตวแพทย์ สัตวบาล) หรือบริโภคเนื้อสัตว์และนมที่ติดเชื้อ

ในบ้านเรามีผู้รายงานผู้ป่วยโรคนี้จากการดื่มนมแพะ และการสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยง (โดยเฉพาะฟาร์มเลี้ยงแพะ) ในจังหวัดราชบุรี (ปี พ.ศ.2546) สตูล (ปี พ.ศ.2546-2547) และกาญจนบุรี (ปี พ.ศ.2548 และ 2549)

* โรคนี้มีความร้ายแรง มีการนำเชื้อบลูเซลลาไปผลิตเป็นอาวุธชีวภาพ เช่นเดียวกับแอนแทรกซ์


สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า บรูเซลลา (Brucella) ซึ่งมีอยู่หลายสายพันธุ์ย่อย คนเราสามารถติดโรคจากสัตว์ได้หลายทาง ได้แก่

    สัมผัสสิ่งปนเปื้อน น้ำนม เลือด รก น้ำเมือกในอวัยวะเพศของสัตว์เพศเมีย น้ำเมือกตามตัวลูกสัตว์ที่คลอดออกมาใหม่ ๆ มูลหรือปัสสาวะสัตว์ เชื้อโรคจะเข้าทางบาดแผลหรือรอยถลอก
    กินเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ หรือนมสัตว์ (รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ไอศกรีม เนยแข็ง) ที่ติดเชื้อ โดยไม่ได้ปรุงให้สุก หรือผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อ
    หายใจสูดเอาฝุ่นหรือละอองของสิ่งคัดหลั่ง น้ำนมที่ปนเปื้อนเชื้อโรคในขณะรีดนมในคอกสัตว์
    ถูกเข็มฉีดวัคซีนป้องกันโรคแก่สัตว์ทิ่มแทง

ระยะฟักตัว ระบุได้ไม่ค่อยแน่นอน อาจเป็นตั้งแต่ 1 สัปดาห์ จนถึงนานกว่า 2 เดือน (ทั่วไปประมาณ 1-2 เดือน)


อาการ

มักมีอาการค่อยเป็นค่อยไปแบบเรื้อรังมากกว่าเฉียบพลัน อาการที่พบบ่อย คือ มีไข้สูง ๆ ต่ำ ๆ แบบเรื้อรังเป็น ๆ หาย ๆ ไม่แน่นอน (อาจมีไข้ 1-3 สัปดาห์ สลับกับไม่มีไข้ 1-3 วัน) ร่วมกับอาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดข้อ ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามร่างกายทั่วไป มึนซึม หนาวสั่น เหงื่อออกมาก ไอ เจ็บหน้าอก น้ำหนักลด

ระยะการเจ็บป่วยอาจนานหลายวันหลายเดือน ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจนานเป็นปี หรือนานกว่า

ในรายที่ติดเชื้อทางอาหารการกิน อาจมีอาการคลื่นไส้ ปวดท้อง ท้องเดิน หรือท้องผูก ปวดหลัง ปวดข้อ

บางรายอาจติดเชื้อโดยไม่แสดงอาการชัดเจนก็ได้


ภาวะแทรกซ้อน

เชื้อบรูเซลลาสามารถเข้ากระแสเลือด แพร่กระจายไปยังอวัยวะแทบทุกส่วน ก่อให้เกิดการอักเสบต่าง ๆ ขึ้น

ที่พบบ่อย คือ การอักเสบของกระดูกและข้อ อาการที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ ข้ออักเสบ (ซึ่งมีลักษณะปวดและบวม ที่บริเวณข้อเข่า สะโพก ข้อเท้า ข้อมือ เพียง 1 ข้อ หรือพร้อมกันหลายข้อ) การอักเสบที่กระดูกบริเวณเชิงกราน (sacroileitis) และข้อสันหลังอักเสบ (spondylitis)

ภาวะแทรกซ้อนอื่น เช่น อัณฑะและท่อนำเชื้ออักเสบ (epididymo-orchitis) สมองและเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปลายประสาทเสื่อม (peripheral neuropathy) ตับอักเสบ ฝีตับ ถุงน้ำดีอักเสบ ปอดอักเสบ ภาวะมีน้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด (pleural effusion) เยื่อตาอักเสบ ม่านตาอักเสบ หลอดเลือดอักเสบ (vasculitis) ผื่นที่ผิวหนัง (erythema nodosum) เป็นต้น

ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง และเป็นสาเหตุการตายที่สำคัญ ได้แก่ เยี่อบุหัวใจอักเสบ (endocarditis) ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจวาย มักเกิดกับลิ้นหัวใจเอออร์ติก (aortic valve) และต้องทำการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจอย่างเร่งด่วน


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

ส่วนใหญ่จะพบมีไข้ ตับโต ม้ามโต บางรายอาจมีอาการกล้ามเนื้อแข็งตึง ต่อมน้ำเหลืองโต ข้ออักเสบ (ข้อบวมและปวด) อัณฑะอักเสบ

ถ้าป่วยนานกว่า 3-6 เดือน จะพบอาการซูบผอมจากการขาดอาหาร

ในรายที่เป็นเรื้อรัง อาจมีเพียงอาการไข้ต่ำ ๆ หรือมีอาการวิตกกังวล ซึมเศร้า นอนไม่หลับ อาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรคทางจิตประสาท

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการทดสอบทางน้ำเหลือง (agglutination test, ELISA) การตรวจด้วยวิธี polymerase chain reaction (PCR) การเพาะเชื้อจากเลือด ไขกระดูก น้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด (pleural fluid) หรือน้ำในข้อ (synovial fluid) การตรวจเลือดมักพบเม็ดเลือดขาวต่ำ (โดยมีสัดส่วนของลิมโฟไซต์สูง) เกล็ดเลือดต่ำ เอนไซม์ตับ (AST, ALT) สูงเล็กน้อย บางรายอาจต้องตรวจชิ้นเนื้อตับ (liver biopsy) เอกซเรย์ปอดและกระดูกสันหลัง


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

การรักษา ที่สำคัญคือให้ยาปฏิชีวนะอย่างน้อย 2 ชนิดร่วมกัน เช่น ดอกซีไซคลีน ร่วมกับไรแฟมพิซิน นาน 6 สัปดาห์ ในเด็กและหญิงตั้งครรภ์ให้โคไตรม็อกซาโซลร่วมกับไรแฟมพิซิน หรืออะมิโนโกลโคไซด์ (เช่น เจนตาไมซิน)

ในรายที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เยื่อบุหัวใจอักเสบ แพทย์จะรับตัวไว้ในโรงพยาบาลให้ยาปฏิชีวนะร่วมกัน 3-4 ชนิด และให้นานกว่า 6 สัปดาห์

ในรายที่เป็นฝีตับ อาจต้องทำการระบายหนองออก

ในรายที่มีภาวะผิดปกติของลิ้นหัวใจอาจต้องผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ

ผลการรักษา นับว่าได้ผลดี อาการไข้และอาการอื่น ๆ มักจะทุเลาหลังกินยาได้ 4-14 วัน แต่ถ้ากินยาไม่สม่ำเสมอ หรือหยุดยาก่อนกำหนดเวลา ก็อาจมีอาการกำเริบซ้ำได้อีกประมาณร้อยละ 30 โดยทั่วไปแพทย์จะติดตามผลการรักษาเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี

ในรายที่มีเยื่อบุหัวใจอักเสบร่วมด้วยมักมีอัตราตายค่อนข้างสูง

ในรายที่ไม่ได้รับการรักษา มีอัตราตายโดยเฉลี่ยประมาณร้อยละ 2

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีไข้เรื้อรังหรือเป็น ๆ หาย ๆ นานเป็นสัปดาห์ ๆ ร่วมกับน้ำหนักลด ข้ออักเสบ อัณฑะอักเสบ หรือมีไข้ร่วมกับอาการหนาวสั่น หรือมีอาการปวดท้อง ท้องเดิน (หลังกินเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์หรือนมสัตว์ที่ไม่ได้ทำให้สุกหรือทำให้ปลอดเชื้อ) ซึ่งพบในผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีคนหรือสัตว์ป่วยด้วยโรคนี้ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคบรูเซลโลซิส ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    กินยาปฏิชีวนะให้ครบตามระยะที่แพทย์กำหนด (อาจนานถึง 6 สัปดาห์) ถึงแม้อาการดีขึ้นแล้วก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้โรคกำเริบ


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 4-14 วัน หรือหลังจากทุเลาแล้วกลับมีไข้กำเริบใหม่
    มีอาการปวดศีรษะมาก อาเจียนมาก ซึมมาก ไม่ค่อยรู้สึกตัว เพ้อคลั่ง หรือชัก
    หายใจหอบ หรือเจ็บหน้าอกมาก
    ข้ออักเสบ หรืออัณฑะอักเสบ
    มีอาการปวดตา ตามัว ตาแดง
    มีไข้ร่วมกับปวดท้อง ตาเหลืองตัวเหลือง
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ


การป้องกัน

1. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคบรูเซลโลซิสในสัตว์เลี้ยง (โค กระบือ แพะ แกะ หมู)

2. ถ้าสงสัยว่าสัตว์เลี้ยงเป็นโรคนี้ เช่น สัตว์ในคอกมีไข้ ซึม เต้านมอักเสบ ข้อขาอักเสบ เยื่อหุ้มข้ออักเสบ อัณฑะอักเสบ ขาหลังเป็นอัมพาต สัตว์แท้งลูกบ่อย ๆ (โรคนี้มีชื่อเรียกว่า โรคแท้งติดต่อในสัตว์) เป็นหมัน ให้น้ำนมน้อยลง เป็นฝีตามที่ต่าง ๆ ลูกที่คลอดออกมาไม่แข็งแรง เป็นต้น ก็ควรปรึกษาสัตวแพทย์ ถ้าเป็นโรคนี้ก็ควรกำจัดทิ้ง

กรณีสัตว์แท้งลูก ควรเก็บลูกสัตว์ที่แท้งและรกส่งตรวจหาสาเหตุของโรค

3. หมั่นตรวจสอบการติดเชื้อในฝูงสัตว์เลี้ยงด้วยการตรวจเลือดและน้ำนม ถ้าพบว่ามีการติดเชื้อ ควรทำการคัดแยกและทำลาย

4. ผู้ที่ทำงานในฟาร์ม (โดยเฉพาะฟาร์มแพะ) ควรป้องกันไม่ให้สัมผัสถูกเชื้อโรคโดยตรง เช่น

    ขณะทำงานควรสวมถุงมือยางชนิดหนาและทนทาน สวมหน้ากากปิดปากและจมูก ใส่ชุดกันเปื้อน
    ระวังอย่าให้เข็มฉีดยาหรือเจาะเลือดทิ่มตำ
    ล้างมือด้วยน้ำกับสบู่ภายหลังการสัมผัสถูกน้ำมูก น้ำลาย ปัสสาวะ สารคัดหลั่งจากอวัยวะสืบพันธุ์  เลือด น้ำเหลือง มูลสัตว์ รกและลูกสัตว์ที่แท้ง

5. ถ้าถูกเข็มฉีดวัคซีนโรคนี้ทิ่มต่ำเข้าโดยบังเอิญ ควรรีบล้างแผลด้วยน้ำกับสบู่ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อทันที และควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ยาป้องกัน แพทย์จะให้กินดอกซีไซคลีน 100 มก. วันละ 2 ครั้ง ร่วมกับไรแฟมพิซิน 600-900 มก. วันละ 1 ครั้ง นาน 21 วัน

ถ้าวัคซีนบังเอิญเข้าตาควรรีบล้างออก และควรกินยาป้องกันนาน 4-6 สัปดาห์

6. หลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์ที่ไม่ได้ปรุงให้สุก และนมหรือผลิตภัณฑ์จากนมที่ไม่ได้ผ่านกรรมวิธีในการฆ่าเชื้อ (พาสเจอร์ไรซ์) การต้ม หรือการทำให้สุกด้วยความร้อนวิธีอื่น ๆ

7. เมื่อมีผู้ป่วยเกิดขึ้น ไม่จำเป็นต้องแยกผู้ป่วย แต่ต้องระวังอย่าสัมผัสถูกหนองและน้ำเหลืองของผู้ป่วย หนองและเลือดของผู้ป่วยที่ติดตามเสื้อผ้าหรือบริเวณต่าง ๆ ต้องผ่านการทำลายเชื้อ

ข้อแนะนำ

1. โรคนี้ถึงแม้พบได้ไม่บ่อย แต่ถ้าพบผู้ป่วยมีอาการไข้เรื้อรังร่วมกับน้ำหนักลด ข้ออักเสบ อัณฑะอักเสบ หรือการอักเสบของอวัยวะหลายส่วน ก็ควรสงสัยว่าอาจเป็นโรคบรูเซลโลซิส โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ทำงานในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้

นอกจากนี้ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการไม่ชัดเจน คือมีเพียงอาการไข้ต่ำ ๆ เป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรังเป็นแรมเดือนแรมปี โดยไม่มีอาการอย่างอื่นชัดเจน อาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรคจิตประสาท (โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีอาการวิตกกังวล ซึมเศร้า หรือนอนไม่หลับร่วมด้วย)

ดังนั้น ถ้าพบผู้ป่วยมีอาการดังกล่าว อย่าลืมถามประวัติการทำอาชีพที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง (โดยเฉพาะโค กระบือ แพะ หมู) หรือการบริโภคนมวัวหรือนมแพะที่ไม่ได้ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อ หรือเนื้อสัตว์ที่ไม่ได้ปรุงให้สุก

2. โรคนี้ติดต่อจากสัตว์เลี้ยงที่ติดเชื้อ การติดจากคนสู่คนเกิดขึ้นได้น้อยมาก จะติดได้ก็โดยการสัมผัสถูกหนองและน้ำเหลืองของผู้ป่วยเท่านั้น

15
คอนโดติดรถไฟฟ้า คอนโด มี อ่อนนุช-พระราม 9 (Condome Onnut-Rama 9)
เริ่มต้น 1.29 ลบ. - 2 ลบ.

คอนโด มี อ่อนนุช-พระราม 9 (Condome Onnut-Rama 9)
คอนโดใหม่เพียง 5 นาทีจากสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ บ้านทับช้าง ที่เชื่อมต่อไปยังสนามบินสุวรรณภูมิและเข้าเมืองมาที่ BTS สถานีพญาไทและรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ได้อีกหลายสาย เช่น สถานีเพชรบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง ทำให้สามารถเดินทางเข้ามาทำงานในตัวเมืองได้สะดวก ใกล้คอมมูนิตี้มอลล์อีกมากมาย

 รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ             คอนโด มี อ่อนนุช-พระราม 9 (Condome Onnut-Rama 9)
 เจ้าของโครงการ        แสนสิริ
 แบรนด์ย่อย             คอนโด มี
 ราคา                    เริ่มต้น 1.29 ลบ. - 2 ลบ.

 ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.           โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ลักษณะทำเล                  คอนโดใกล้ขนส่งสาธารณะ
 ความสูงคอนโด               Low Rise (ไม่เกิน 8 ชั้น)
 ลักษณะกรรมสิทธิ์            โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ประเภทห้องที่มี              1 ห้องนอน
 ขนาดห้องที่มี                 ตั้งแต่ 23.35 ถึง 35.25 ตร.ม.
 เนื้อที่ทั้งหมด                1 ไร่
 จำนวนตึก                    3 อาคาร
 จำนวนชั้น                    5 ชั้น
 จำนวนห้อง                  79 ยูนิต
 ที่จอดรถทั้งหมด           ประมาณ 34 %
 ค่าบำรุงส่วนกลาง         โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 สาธารณูปโภค            โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

 สถานที่ใกล้เคียง
 โซน        ประเวศ, พระโขนง, สวนหลวง
 ที่ตั้ง       ถนน เฉลิมพระเกียรติ ร. 9 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร 10250

 ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า:       โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
The Nine Center Rama 9
The Paseo
Siam Premium Outlets Bangkok
Central Village
ซีคอนสแควร์
มหาลัยพระจอมเกล้าลาดกระบัง
โรงพยาบาลพระรามเก้า

หน้า: [1] 2 3 ... 14





















































อยากขายของดี
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
ขายสินค้าไม่สต๊อกสินค้า
เริ่มขายของออนไลน์
รับทำ seo ด่วน
smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
ไม่รู้จะขายอะไรดี

เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
โพสกระตุ้นยอดขาย
วิธีกระตุ้นยอดขาย เซลล์
วิธีแก้ปัญหายอดขายตก
เริ่มต้นขายของ
แหล่งรับของมาขายออนไลน์
ขายของออนไลน์อะไรดี
อยากขายของออนไลน์
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี

กลยุทธ์การหาลูกค้าใหม่
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
วิธีการหาลูกค้าของ sale
ทำ SEO ติด Google
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี
วิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
การหาลูกค้าใหม่ รักษาลูกค้าเก่า
ช่องทางการเข้าถึงลูกค้า
เพิ่มฐานลูกค้าใหม่
รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด

โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
ทําไงให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะ ๆ
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
เคล็ดลับขายของดี
ค้าขายไม่ดีทำอย่างไรดี
งานโพสโปรโมทงาน
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
หากลยุทธ์เพิ่มยอดขาย